เกาหลีใต้สั่งปิดโรงเรียนในกรุงโซลและปริมณฑล เพื่อรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ ด้านมหาวิทยาลัยหลายแห่งในอเมริกา พิจารณาแผนชะลอการกลับมาเปิดภาคการศึกษาใหม่ ในรูปแบบการเรียนตัวต่อตัวในมหาวิทยาลัย หลังมีรายงานการติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้นในกลุ่มนักศึกษา ตามรายงานของรอยเตอร์
โดย University of Alabama รายงานว่า มีนักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัยติดเชื้อกว่า 550 คน หลังกลับมาเปิดการเรียนการสอนในห้องเรียนตามปกติ เมื่อ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา จนต้องสั่งปิดบาร์ และยกระดับมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในมหาวิทยาลัยเป็นระยะ 14 วัน
ส่วน University of Southern California (USC) ที่เพิ่งกลับมาเปิดเรียนเมื่อ 17 สิงหาคม สั่งให้นักศึกษากว่า 100 คนของมหาวิทยาลัยกักตัวเป็นเวลา 14 วัน หลังพบว่าติดเชื้อโควิด-19
และที่ Ohio State University ที่เพิ่งกลับมาเปิดภาคเรียนในวันอังคาร สั่งพักการเรียนนักศึกษากว่า 200 คน เป็นการชั่วคราว หลังจากพวกเขาไปรวมตัวกันในงานปาร์ตี้ใหญ่ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฏควบคุมการระบาดของโควิด-19
ก่อนหน้านี้ มหาวิทยาลัย University of North Carolina วิทยาเขต Chapel Hill ยกเลิกการเรียนการสอนแบบตัวต่อตัวในมหาวิทยาลัย หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงอย่างน่ากังวล
เกาหลีใต้ สั่งปิดโรงเรียนทั่วกรุงโซล รับมือโควิดระบาด
ด้านเกาหลีใต้ สั่งปิดสถานศึกษาในกรุงโซลและปริมณฑล หลังต้องรับมือกับผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาของเกาหลีใต้ ยู อึน เฮ เปิดเผยเมื่อวันอังคาร ให้นักเรียนส่วนใหญ่ในโรงเรียนที่กรุงโซลและปริมณฑล เรียนในรูปแบบออนไลน์ต่อไปจนถึง 11 กันยายนนี้ แต่เปิดให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เข้าเรียนแบบตัวต่อตัวในโรงเรียนได้ตามปกติ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
เกาหลีใต้เลื่อนการเปิดภาคเรียนมาหลายสัปดาห์ หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่พุ่งสูง โดยเฉพาะในกรุงโซลเมืองหลวง โดยเมื่อวันอังคาร พบผู้ติดเชื้อใหม่ 280 ราย ตามข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้