Your browser doesn’t support HTML5
กุ๊กชาวอาฟริกากำลังสร้างสรรค์ข้าวปั้นญี่ปุ่นสไตล์อาฟริกาเพื่อดึงดูดให้ชาวอาฟริกาหันไปลองรับประทานอาหารประจำชาติของญี่ปุ่นกันมากขึ้น
คุณ Themba Khumalo กุ๊กซูชิที่ร้านอาหารกลางเมืองโจฮันเนสเบิร์กกำลังลับมีดทำซูชิอยู่ในครัว เขากล่าวว่าถ้าขาดมีดซูชิ ก็ทำซูชิไม่ได้ เขาจะต้องลับคมมีดเป็นประจำทุกเช้าเมื่อเริ่มทำงาน
ด้านหน้าผนังที่ทาสีดำสนิท ตกแต่งด้วยตะเกียบสีทอง คุณ Khumalo กำลังทำข้าวห่อสาหร่ายทรงกรวยหรือ maki ด้วยแผ่นสาหร่ายสอดไส้ปลาซัลมอนดิบ แตงกวาและอะโวคาโด้ คุณ Khumalo ได้รับการว่าจ้างให้สร้างสรรค์ศิลปะการทำซูชิ ที่ร้านอาหาร the Blackanese ที่คุณ Vusi Kunene อายุ 30 ปีเป็นเจ้าของ
คุณ Kunene เติบโตในครอบครัวยากจนในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด เขาบอกว่าตอนเป็นเด็ก เขาได้กินเนื้อไก่เฉพาะในโอกาสพิเศษเท่านั้น ส่วนมากจะได้กินแต่ข้าวต้มกับผักโขมเท่านั้นเพราะมารดาของเขามีรายได้น้อยนิดจากการขายผักสด เขากล่าวว่าคิดว่าตอนนั้นยังไม่มีซูชิในอาฟริกา เขาไม่เคยรู้จักซูชิเลยตอนเป็นเด็ก
หลังจากมารดาเสียชีวิต คุณ Kunene เลิกเรียนหนังสือเมื่ออายุ 14 ปีและย้ายไปอาศัยในเมืองโจฮันเนสเบริ์ก รับจ้างทำงานหลายอย่าง จนในที่สุดได้ทำงานเป็นพนักงานเสริฟอาหารในร้านซูชิญี่ปุ่น ที่นี่เอง เขาเกิดหลงไหลศิลปะการทำซูชิและตั้งใจว่าจะพยายามหาความรู้ให้มากที่สุด
เขากล่าวว่าในตอนนั้น กุ๊กในร้านอาหารซูชิเป็นชาวญี่ปุ่นและชาวจีน พวกเขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้และไม่อยากสอนเคล็ดลับการทำซูชิ เขาจึงศึกษาเองผ่านข้อมูลทางอินเตอร์เน็ท และย้ายไปทำงานในร้านซูชิหลายร้าน คุณ Kunene เปิดร้านอาหารของตนเองเมื่อสองปีที่แล้วโดยตั้งเป้าที่จะคิดค้นให้ซูชิมีรสชาดถูกลิ้นชาวอาฟริกา
เขากล่าวว่าคนส่วนมากมักคิดว่าซูชิต้องเป็นข้าวปั้นปลาดิบเสมอ ซึ่งเป็นความผิดที่ผิด ซูชิคือข้าวปั้นผสมน้ำส้มสายชูและสอดไส้อะไรก็ได้ตามชอบ ไม่จำเป็นต้องเป็นปลาดิบเท่านั้น และเขาคิดค้นสูตรซูชิสไตล์อาฟริกาด้วยการหันไปใช้ส่วนประกอบอาหารที่คนท้องถิ่นรับประทานกันอยู่แล้ว
ตอนที่ร้าน The Blackanese เปิดใหม่ๆ ลุกค้าส่วนมากเป็นคนผิวขาว แต่มาตอนนี้ คุณ Kuneneบอกว่าลูกค้าอย่างน้อยครึ่งหนึ่งเป็นชาวอาฟริกา
ที่โต๊ะอาหารในร้าน ชายหนุ่มคนหนึ่งแต่งตัวทันสมัยสวมเสื้อสเว็ตเตอร์ทำจากขนแกะแคชเมียร์ กำลังรับประทานซูชิอยู่ขณะที่ใช้ iPad ไปด้วย
คุณ Seth Mbhele นัก digital strategist เป็นลูกค้าขาประจำที่ร้าน เขาเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังถึงประสบการณ์ครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน เขากล่าวว่าเขาลองรับประทานซาชิมิปลาทูน่า เขาเริ่มชอบมากขึ้นเรื่อยๆ หลังเริ่มชินกับการทานปลาดิบ เขามารับประทานอาหารที่ร้านราวสี่ครั้งต่อสัปดาห์
ด้านคุณ Kunene เจ้าของร้านบอกว่าเขาตื่นเต้นมากที่มีส่วนในการช่วยเปลี่ยนแปลงนิสัยการกินของคนอาฟริกาผ่านการสร้างสรรค์ซูชิให้ถูกลิ้นคนท้องถิ่นด้วยการผสมความเป็นอาฟริกาเข้าไปในอาหารญี่ปุ่นด้วย