นายกรัฐมนตรีประเทศหมู่เกาะโซโลมอน มานาสเซห์ โซกาวาเร กล่าวกับรัฐสภาในวันพุธว่า สนธิสัญญาด้านความมั่นคงที่ลงนามกับจีนจะไม่สร้างภัยคุกคามด้านสันติภาพและความมั่นคงในแถบเอเชียแปซิฟิก แม้สหรัฐฯ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และญี่ปุ่น แสดงความกังวลในเรื่องนี้
ร่างสนธิสัญญาดังกล่าวที่มีการลงนามร่วมกันระหว่างจีนกับหมู่เกาะโซโลมอน รั่วไหลออกมาในโลกออนไลน์ ซึ่งมีบางส่วนที่ระบุว่า จีนจะส่งกำลังทหารไปประจำการบนหมู่เกาะโซโลมอนเพื่อช่วยปกป้องการลงทุนของจีน
นอกจากนี้ เรือรบจีนจะได้รับอนุญาตให้เทียบท่าบนหมู่เกาะแห่งนี้ซึ่งอยู่ห่างจากออสเตรเลียไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 2,000 กม.
นายกรัฐมนตรีประเทศหมู่เกาะโซโลมอน มานาสเซห์ โซกาวาเร กล่าวว่า ภายใต้สนธิสัญญานี้ จีนจะไม่สร้างฐานทัพเรือบนหมู่เกาะโซโลมอน และยังกล่าวปฏิเสธความพยายามของออสเตรเลียที่ขอให้ยกเลิกข้อตกลงนี้ แม้ว่าออสเตรเลียจะเป็นประเทศผู้บริภาครายใหญ่ให้แก่หมู่เกาะโซโลมอนก็ตาม
ทางด้านออสเตรเลียกังวลว่า สนธิสัญญาฉบับนี้จะอนุญาตให้จีนส่งทหารไปประจำการในพื้นที่ที่อยู่ในเขตอิทธิพลของออสเตรเลียมาโดยตลอด โดยในช่วงระหว่างปีค.ศ. 2003 - 2017 ออสเตรเลียได้เป็นผู้นำกองกำลังสันติภาพนานาชาติเข้ารักษาความสงบหลังจากเกิดความวุ่นวายด้านชาติพันธุ์ในประเทศนี้
ทางด้านรัฐบาลกรุงปักกิ่งกล่าวว่า สนธิสัญญาด้านความมั่นคงฉบับนี้จะช่วยให้หมู่เกาะโซโลมอนรับมือกับภัยธรรมชาติได้ดีขึ้น และจัดระเบียบทางสังคมได้
ทั้งนี้ ผู้แทนระดับสูงของสหรัฐฯ จะเดินทางไปยังหมู่เกาะโซโลมอนในสัปดาห์หน้า โดยสหรัฐฯ มีกำหนดเปิดสถานทูตในกรุงโฮนิอาราอีกครั้งหลังจากปิดไปตั้งแต่ปีค.ศ. 1993