รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศดำเนินมาตรการล็อคดาวน์แบบเดียวกับที่เคยบังคับใช้ไปเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่พุ่งขึ้น ขณะที่ไม่สามารถตรวจสอบที่มาของเชื้อโคโรนาไวรัสได้ จนทำให้ต้องสั่งห้ามประชาชนไม่ให้รับประทานอาหารภายในร้านและจำกัดไม่ให้มีการจับกลุ่มกันเกิน 2 คน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า คำสั่งล็อคดาวน์รอบใหม่ของสิงคโปร์จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคมนี้ ไปจนถึงวันที่ 13 มิถุนายน หลังจากที่เคยได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จกับการควบคุมการระบาดมากที่สุดในโลกไปก่อนหน้านี้
ภายใต้มาตรการรอบนี้ซึ่งถือว่ามีความเข้มข้นมาที่สุดตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายนของปีที่แล้ว ทางการยังจำกัดจำนวนผู้ที่จะมาเยี่ยมครัวเรือนทั้งหมดไม่ให้เกิน 2 คนต่อครั้ง โดยเป็นการลดลงจากเพดาน 5 คนในปัจจุบัน ขณะที่ การทำงานจากบ้านคือเงื่อนไขที่ให้ปฏิบัติตามโดยปริยาย ตามรายละเอียดที่กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ประกาศออกมาในวันศุกร์
นอกจากนั้น การกลับมาระบาดหนักของโควิด-19 ในสิงคโปร์ยังส่งผลต่อแผนการดำเนินนโยบาย “ฟองอากาศการเดินทาง” (Travel Bubble) ที่มีการพูดคุยไว้กับฮ่องกง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ที่จะเดินทางระหว่างทั้งสอง แต่อาจจะต้องเลื่อนการดำเนินการจากกำหนดเดิมที่จะเริ่มในวันที่ 26 พฤษภาคมออกไปอีกสักระยะแล้ว
ทั้งนี้ สิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสรายใหม่จำนวน 24 คนในวันศุกร์ โดยกว่าครึ่งนั้นมาจากคลัสเตอร์ที่มีจุดเริ่มต้านจากสนามบินชางงี
ขณะเดียวกัน ทางการสิงคโปร์กังวลหนักเกี่ยวกับกรณีผู้ติดเชื้อที่ไม่สามารถยืนยันที่มาหรือความเกี่ยวเนื่องได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการแพร่กระจายในชุมชนต่างๆ ที่ไม่สามารถตรวจพบได้ โดยสถิติระบุว่า จำนวนผู้ป่วยกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นเป็น 15 คนในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสถิติ 7 คนในสัปดาห์ก่อนหน้า
และแม้ว่าตัวเลขทั้งหมดนั้นจะต่ำกว่ากรณีการระบาดในประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐฯ การพุ่งขึ้นของอัตราการติดเชื้อในสิงคโปร์ถือว่าเป็นเหมือนความล้มเหลวของมาตรการการควบคุมโรคของประเทศที่เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งในโลกที่เคยประกาศว่าเป็น “สวรรค์ปลอดโควิด” เพราะเกือบกำจัดเชื้อที่ระบาดในประเทศได้เกือบหมด
นายกรัฐมนตรี ลี เซียน ลุง โพสต์ข้อความบนเพจเฟสบุ๊คของตนเองในวันศุกร์ว่า เจ้าหน้าที่กำลังเร่งทำการตรวจหาการติดเชื้อพร้อมๆ กับล้อมรั้วการแพร่กระจายของเชื้ออย่างคร่ำเคร่ง และว่า มาตรการเข้มงวดที่นำออกมาใช้ครั้งนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อหยุดการระบาดให้ได้ พร้อมยอมรับด้วยว่า “มาตรการใหม่ทั้งหมดนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับทุกคน”
แต่ถึงแม้ทางการสิงคโปร์จะออกมาให้ความมั่นใจกับประชาชนว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์สินค้าและของใช้จำเป็นขาดแคลนเพราะสถานการณ์ในปัจจุบัน สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า ภาพผู้คนจำนวนมากเข้าแถวรอซื้อของหน้าซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ยังมีให้เห็นทั่วไปในวันศุกร์ ขณะที่คนที่เข้าไปในร้านได้ต่างตุนของกินของใช้เต็มรถเข็นจนชั้นวางของว่างลงอย่างรวดเร็ว