ชัตดาวน์กระทบเที่ยวบินล่าช้า

Government Shutdown Aviation

หน่วยงานด้านความปลอดภัยในการเดินทางของประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ TSA ออกมาเตือนว่าเที่ยวบินหลายแห่งในสนามบินฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบหนักจากภาวะชัตดาวน์ที่ยืดเยื้อยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน

ท่าอากาศยานหลายแห่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ เผชิญกับภาวะขาดแคลนเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยในการเดินทาง หรือ TSA ในหลายตำแหน่ง รวมทั้งฝ่ายควบคุมการบิน ซึ่งต้องทำงานโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน และทยอยขอลาป่วยกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลต่อการให้บริการและตรวจสอบความปลอดภัยในสนามบิน

มีรายงานว่า ท่าอากาศยาน ลากัวเดีย ในนิวยอร์ก ต้องยกเลิกการบินเมื่อช่วง 10 นาฬิกาของวันศุกร์ เป็นเวลา 45 นาที ทำให้เที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวต้องยกเลิกไปในช่วงเวลาดังกล่าว อีกทั้งผู้โดยสารในสนามบินนวร์ก ในนิวเจอร์ซีย์ ต้องต่อแถวยาวและรอนานกว่าจะได้ขึ้นเครื่อง รวมทั้งมีรายงานปัญหาเที่ยวบินล่าช้าและยกเลิกเป็นจำนวนมาก

ไม่เพียงแต่ฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯเท่านั้น ข้อมูลจาก Time ระบุว่า เจ้าหน้าที่ TSA ราวร้อยละ 10 ทั่วอเมริกาขอลาป่วย กระทบกับสนามบิน Miami International Airport ในไมอามี รัฐฟลอริดา และสนามบิน Atlanta’s Hartsfield-Jackson International Airport

ขณะที่ Seattle Times รายงานว่าเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ของสนามบิน Seattle-Tacoma International Airport หลายสิบคน ออกมาประท้วงหน้าสนามบิน เพื่อเรียกร้องให้ยุติการปิดที่ทำการรัฐบาลสหรัฐฯ โดยผู้ประท้วงระบุว่า มีเจ้าหน้าที่สนามบินราว 2,000 คนที่ได้รับผลกระทบจากชัตดาวน์ และต้องมาทำงานโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน

สถานการณ์วุ่นวายนี้ มีขึ้นเพียง 1 วันหลังจากที่ทางสหภาพแรงงานของเจ้าหน้าที่วิทยุการบิน ออกมาเตือนว่า การปิดที่ทำการรัฐบาลนั้นทำให้เกิดความเสี่ยงต่อประชาชนด้านความปลอดภัยทางการบินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้