วุฒิสภาสหรัฐฯ เตรียมออกเสียงลงมติในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อยุติการปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ล่วงเข้ามาถึงเดือนที่สองแล้ว
โดยสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ ต้องออกเสียงว่าจะยอมรับข้อเสนอของพรรครีพับลิกันที่รวมถึงการให้งบประมาณมูลค่า 5,700 ล้านดอลลาร์ สำหรับการสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐฯ -เม็กซิโก ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการหรือไม่ เพื่อให้รัฐบาลสามารถเปิดทำการได้จนถึงสิ้นสุดปีงบประมาณนี้
นอกจากนี้ วุฒิสภาสหรัฐฯ ยังต้องออกเสียงลงมติในข้อเสนอของพรรคเดโมแครตที่ของบประมาณสำหรับการเปิดทำการรัฐบาลจนถึงวันที่ 8 ก.พ. แต่เป็นข้อเสนอที่ไม่มีงบประมาณสำหรับการสร้างกำแพงหรือมาตรการอื่นๆ ในการปกป้องชายแดน รวมอยู่ด้วย
วุฒิสมาชิก มิทช์ แม็คคอนแนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ กล่าวกระตุ้นให้พรรคเดโมแครตยอมรับข้อเสนอของรีพับลิกัน เพื่อแลกกัลการเปิดทำการรัฐบาล และมาตรการขยายการปกป้องคนเข้าเมืองผิดกฎหมายที่มาพร้อมครอบครัวตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อไม่ให้ถูกส่งตัวกลับประเทศ ภายใต้โครงการ DACA ที่ใช้มาตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีโอบาม่า
ด้าน ส.ว. ชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา กล่าวว่า ข้อเสนอของพรรครีพับลิกันนั้นคือการจับข้าราชการอเมริกัน 800,000 คน รวมทั้งคนอเมริกันอีกหลายล้านคน เป็นตัวประกัน เพื่อแลกกับการสร้างกำแพงให้ได้ และว่าพรรคเดโมแครตไม่ต้องการอะไร นอกจากการเปิดทำการรัฐบาลสหรัฐฯ อีกครั้ง ก่อนที่จะมีการเจรจาเรื่องความมั่นคงตามแนวพรมแดนต่อไป
โดยข้อเสนอทั้งสองฉบับนี้ต้องการเสียงสนับสนุนอย่างน้อย 60 เสียง เพื่อให้ผ่านเข้าสู่กระบวนการต่อไป โดยขณะนี้พรรครีพับลิกันมีที่นั่งในวุฒิสภา 53 ที่นั่ง ขณะที่เดโมแครตมี 47 ที่นั่ง
การที่รัฐบาลไม่มีงบประมาณสนับสนุนหน่วยงานช่วง government shutdown ทำให้พนักงานรัฐจำนวนประมาณ 800,000 คนทั่วสหรัฐฯไม่ได้รับเงินเดือน
ผลการสำรวจความคิดเป็นของประชาชนสองชิ้น โดย Washington Post-ABC News และโดย CNN ชี้ว่าผู้มีสิทธิ์ออกเสียงชาวอเมริกันส่วนใหญ่กล่าวโทษประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์และพรรครีพับลิกัน ว่ามีส่วนรับผิดชอบในเหตุการณ์ government shutdown