วุฒิสภาสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงร่างงบประมาณฉบับใหม่เลี่ยง "ชัตดาวน์"

Senate Majority Leader Mitch McConnell, R-Ky., leaves the chamber after announcing an agreement in the Senate on a two-year, almost $400 billion budget deal, at the Capitol in Washington, Feb. 7, 2018.

ผู้นำพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงเรื่องร่างงบประมาณฉบับใหม่ที่จะนำมาใช้ในช่วงสองปีข้างหน้า หนึ่งวันก่อนกำหนดเส้นตายเที่ยงคืนวันพฤหัสบดี

ผู้นำพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาสหรัฐฯ ส.ว. มิทช์ แม็คคอร์แนลล์ (Mitch McConnell) และ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐฯ ส.ว. ชัค ชูมเมอร์ (Chuck Schumer) ต่างกล่าวแสดงความยินดีที่ทั้งสองพรรคสามารถตกลงกันได้ ในเรืื่องบประมาณมูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงงบประมาณด้านหการทหารและโครงการสวัสดิการต่างๆ ภายในประเทศ ถือเป็นการสิ้นสุดการกำหนดเพดานงบประมาณชั่วคราวที่ใช้มานานหลายปี

จากนี้ร่างงบประมาณดังกล่าวจะถูกนำไปพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และหากผ่านทั้งสองสภา ก็จะส่งให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามเพื่อเป็นกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องของนโยบายคนเข้าเมืองผิดกฎหมายที่เรียกว่า DACA (Deferred Action for Childhood Arrival) ซึ่งปกป้องเยาวชนที่เข้าเมืองผิดกฎหมายพร้อมครอบครัวตั้งแต่ยังเด็ก หรือที่เรียกว่า ดรีมเมอร์

ก่อนหน้านี้ ผู้นำในวุฒิสภาสหรัฐฯ ทำงานแข่งกับเวลาเพื่อผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ให้ทันกำหนดเส้นตายวันที่ 8 กุมภาพันธ์ และเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นรอบที่สองภายในช่วงเวลา 1 เดือน​

เมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวท้าทายให้มีการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ อีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากการเจรจาทำความตกลงเพื่อปกป้องสถานะของกลุ่มคนหนุ่มสาวที่เป็นลูกหลานของคนเข้าเมืองผิดกฎหมายในสหรัฐฯ หรือที่เรียกกันว่า "ดรีมเมอร์" ยังไม่มีผลคืบหน้า

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า ตนสนับสนุนเส้นทางไปสู่การได้สัญชาติของกลุ่มดรีมเมอร์เหล่านี้จำนวนราวหนึ่งล้านแปดแสนคน ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา 10 ถึง 12 ปี

แต่ผู้นำสหรัฐฯ ก็เรียกร้องขอเงินสนับสนุนเพื่อสร้างกำแพงตามแนวพรมแดนระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโก ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงระบบพิจารณารับผู้อพยพเพื่อตั้งถิ่นฐานในประเทศ รวมทั้งการให้ความสำคัญกับทักษะความชำนาญของผู้ที่จะได้สัญชาติในสหรัฐฯ แทนที่จะเป็นความเกี่ยวพันในครอบครัวเป็นข้อแลกเปลี่ยน

ส่วนพรรคเดโมแครตก็มีจุดยืนว่า เรื่องการคุ้มครองเยาวชนกลุ่มดรีมเมอร์ซึ่งอาจต้องถูกเนรเทศออกจากสหรัฐฯ โดยทันทีนี้ ไม่ควรถูกนำมาพิจารณารวมกับประเด็นเรื่องการปฏิรูประบบคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ ซึ่งรัฐสภาไม่สามารถทำความตกลงกันได้มานานหลายสิบปีแล้ว