หน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลกลางสหรัฐฯต้องปิดทำการ หรือ shutdown อย่างไม่มีกำหนด ตั้งแต่หลัง เวลา 24.00 น. หรือเที่ยงคืน ที่จะย่างเข้าสู่วันเสาร์ ที่ 20 มกราคมตามเวลากรุงวอชิงตันในทันที หลังรัฐสภาสหรัฐฯ โดยวุฒิสภาไม่สามารถหาข้อยุติเพื่อผ่านร่างกฎหมายงบประมาณของรัฐบาลประจำปี 2018 ไปได้
นับตั้งแต่เริ่มปีงบประมาณ 2018 ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นมา รัฐสภาสหรัฐฯทางออกในการดำเนินงานของรัฐบาลกลางด้วยการผ่านใช้กฎหมายงบประมาณระยะสั้นฉบับชั่วคราว หรือ continuing resolution (CR) มาแล้วถึง 3 ฉบับ ซึ่งฉบับที่ 3 หมดอายุลงในเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา
พรรครีพับลิกันซึ่งเป็นฝ่ายเสียงข้างมากในวุฒิสภาจต้องการคะแนนเสียง 60 จาก 100 วุฒิสมาชิก เพื่อผ่านร่างกฎหมายงบประมาณประจำปีฉบับเต็ม แต่ฝ่ายพรรคเดโมรแครตยังคงยืนยันคัดค้านหลังไม่สามารถตกลงกันในหลายประเด็นในร่างงบประมาณได้ทันเวลาเส้นตาย ส่งผลให้หน่วยงานรัฐบาลกลางต้องปิดทำการ
ประเด็นที่เป็นข้อขัดแย้งและทำให้เกิดข้อชงักงันในการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณประจำปีของรัฐบาลสหรัฐฯที่รัฐสภาจากทั้งสองพรรคไม่สามารถตกลงกันได้นั้น มีประเด็นหลักๆนอกจากประเด็นเรื่องกฎหมายหลักประกันสุขภาพหรือโอบามา แคร์ แล้ว ก็ยังมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับนโยบายการรับผู้อพยพเข้าเมือง โดยเฉพาะในส่วนดรีมเมอร์ส (Dreamers) หรือเยาวชนผู้เป็นลูกหลานคนเข้าเมืองผิดกฎหมายในสหรัฐฯ หรือ DACA ไม่ให้ต้องถูกเนรเทศ และข้อเรียกร้องของประธานาธิบดี ทรัมป์ ที่จะให้มีการจัดสรรงบประมาณที่ชัดเจนเพื่อสร้างกำแพงกั้นแนวพรมแดนระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโก
ก่อนหน้านี้ได้มีความพยายามหารือระหว่างแกนนำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภากับแกนนำพรรคริพับลิกัน และจากทำเนียบขาวแล้ว โดยมีพรรคเดโมแครตแถลงจุดยืนในเรื่องคนต่างด้าว และการใช้งบประมาณ และเสนอว่าจะร่วมพิจารณาผ่านร่างกฎหมายงบประมาณฉบับชั่วคราวหรือ CR แบบเดือนต่อเดือนเท่านั้นเพื่อเลี่ยงการปิดทำการรัฐบาลกลาง แต่ฝ่ายริพับลิกัน ไม่เห็นด้วย
อย่างไรก็ตาม วุฒิสภาจะนัดประชุมหารือ อีกครั้งในเวลา 12.00 น. ของวันวันเสาร์ที่ 20 มกราคม เพื่อจะพยายามหาทางออก
