พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมของไทย เข้าเฝ้ามกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันศุกร์ โดยทั้งสองลงนามในข้อตกลงขยายความสัมพันธ์ทางการทูตที่ถูกฟื้นฟูในปีนี้ หลังซาอุดีอาระเบียลดระดับความสัมพันธ์กับไทยมากว่า 30 ปี จากกรณีโจรกรรมเครื่องประดับ ตามรายงานของรอยเตอร์
ผู้นำทั้งสองเป็นสักขีพยานการลงนามในข้อตกลงห้าฉบับ ว่าด้วยการเพิ่มการค้าและการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศ การส่งเสริมการท่องเที่ยว และการพัฒนาความร่วมมือด้านพลังงาน โดยไทยหวังว่าการพัฒนาความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของไทยได้
การขยายความสัมพันธ์ทางการทูตของซาอุดีอาระเบียนี้ มีขึ้นหลังนานาประเทศประณามการสังหารจามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวของสื่อวอชิงตัน โพสต์ โดยเขาถูกบุคคลของซาอุฯ สังหารและแยกชิ้นส่วนร่างกาย ในพื้นที่สถานกงสุลของซาอุฯ ในนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี
พลเอกประยุทธ์หารือทวิภาคีกับองค์มกุฎราชกุมาร ระหว่างการประชุมคู่ขนานกับการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค ในกรุงเทพฯ โดยซาอุดีอาระเบียได้รับเชิญเป็นแขกของประเทศเจ้าภาพเอเปค
ไทยและซาอุดีอาระเบียกลับมือฟื้นฟูความสัมพันธ์อย่างเต็มรูปแบบเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยพลเอกประยุทธ์เดินทางเยือนซาอุฯ ตามคำเชิญขององค์กุฎราชกุมาร
ซาอุฯ ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยเมื่อปีค.ศ. 1989 หลังเกิดคดีคนงานไทยในพระราชวังของเจ้าชายซาอุฯ ขโมยอัญมณีมูลค่าราว 20 ล้านดอลลาร์ไป ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “คดีบลูไดมอนด์”
อัญมณีจำนวนมาก รวมถึงเพชรสีน้ำเงินหายาก หายไปจากเหตุครั้งนี้และไม่เคยถูกนำคืนมา เหตุดังกล่าวกลายเป็นปริศนาที่ไม่ได้รับการคลี่คลาย และตามมาด้วยเหตุสังหารนักการทูตซาอุฯ ในไทยสามราย
องค์มกุฎราชกุมารตรัสว่า “การฟื้นฟูความสัมพันธ์เป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ” โดยมีการลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณสุข เป็นประเด็นสำคัญ
- ที่มา: รอยเตอร์