ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวเมื่อวันอังคารว่า สงครามกับรัสเซียจะยุติลงได้ด้วยการเจรจา แต่รัฐบาลกรุงเคียฟจะต้องมีจุดยืนที่แข็งแกร่งและว่าจะเสนอแผนยุติความขัดแย้งนี้กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน รวมทั้งกับ โดนัลด์ ทรัมป์ และคามาลา แฮร์ริส 2 ผู้ท้าชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ ในศึกเลือกตั้งปลายปีนี้ด้วย
ผู้นำยูเครน กล่าวในการแถลงข่าวในวันอังคารว่า การรุกคืบแคว้นเคิร์สกของยูเครนที่ดำเนินมากว่า 3 สัปดาห์ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการยุติสงครามกับรัสเซีย แต่ได้เสริมว่ามีขั้นตอนการเจรจาทางเศรษฐกิจและการทูตที่ต้องดำเนินควบคู่กันไปด้วย โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ประเด็นหลักของแผนนี้คือกดดันรัสเซียให้ยุติสงคราม”
ปธน.เซเลนสกี ไม่ได้ลงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนต่อจากนี้ แต่ได้กล่าวว่าจะหารือเกี่ยวกับแผนการนี้กับรองประธานาธิบดีคามาลา แฮรริส และกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ 2 ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ และตนหวังว่าจะเดินทางไปสหรัฐฯ ในเดือนกันยายน เพื่อเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติที่นิวยอร์ก และเตรียมที่จะพบกับปธน.ไบเดน ในโอกาสนี้ด้วย
ถ้อยแถลงของผู้นำยูเครนชี้ว่าเรามองเห็นโอกาสการเจรจาหลังการประชุมสุดยอดด้านสันติภาพระหว่างประเทศ ที่ยูเครนระบุว่าต้องการให้มีตัวแทนจากรัสเซียเข้าร่วมในการประชุมนี้ด้วย โดยในการประชุมสุดยอดครั้งแรกที่สวิตเซอร์แลนด์เมื่อเดือนมิถุนายนที่มีหลายสิบประเทศเข้าร่วม ไม่มีตัวแทนจากรัสเซีย เช่นเดียวกับจีน
ทางรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ กล่าวเมื่อ 19 สิงหาคมว่า การเจรจานั้นไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้หลังจากยูเครนรุกคืบข้ามพรมแดนเข้ามาในแคว้นเคิร์สกเมื่อ 6 สิงหาคม
ส่วนนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี ที่เยือนกรุงเคียฟเมื่อสัปดาห์ก่อน ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียในวันอังคาร และได้กล่าวว่าตนสนับสนุนหนทางยุติความขัดแย้งกับยูเครนอย่างสันติโดยเร็ว
ปธน.เซเลนสกี ได้กล่าวมาตลอดว่ารัสเซียต้องการกำหนดเงื่อนไขสำหรับยูเครนในการยุติสงคราม ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลกรุงเคียฟไม่อาจยอมรับได้
ปธน.ปูติน ได้กล่าวว่า ข้อตกลงใด ๆ ก็ตามจำเป็นต้องเริ่มต้นจากการที่ยูเครนยอมรับว่ารัสเซียจะครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของเขตปกครอง 4 แห่ง รวมทั้งแคว้นไครเมียของยูเครน ขณะที่ตอนนี้ยูเครนกล่าวว่าได้เข้าควบคุมพื้นที่กว่า 1,200 ตารางกิโลเมตรในแคว้นเคิร์สก
ปธน.เซเลนสกี กล่าวว่า “จะไม่มีการประนีประนอมกับปูติน” และว่าผู้นำรัสเซีย “ไม่ต้องการยุติสงครามด้วยวิถีการทูต”
อีกด้านหนึ่งทางการยูเครนเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 6 รายในการโจมตีขีปนาวุธและโดรนของรัสเซีย โดยกองทัพอากาศยูเครน เผยว่าในการโจมตีเมื่อวันอังคาร ยูเครนสามารถสกัดขีปนาวุธ 5 ลูก จาก 10 ลูก และยิงโดรน 60 ลำ จาก 81 ลำตกไปได้ แต่คาดว่ามีโดรนอีก 10 ลำที่รุกล้ำเข้ามาในดินแดน อีก 1 ลำผ่านเข้าไปในดินแดนของเบลารุส และอีก 10 ลำยังคงบินอยู่เหนือน่านฟ้าของยูเครนในเช้าวันอังคาร
ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวในวันอังคารด้วยว่า กรุงเคียฟพร้อมจะตอบโต้รัสเซียจากการโจมตีที่เกิดขึ้น พร้อมขอให้พันธมิตรพิจารณาปฏิบัติการป้องกันทางอากาศร่วมและจัดหาขีปนาวุธพิสัยไกลให้ยูเครน หลังจากกองทัพรัสเซียถล่มโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานด้วยขีปนาวุธและโดรนนับร้อยเมื่อวันจันทร์
ฝั่งกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เผยว่า กองทัพของตนได้โจมตีด้วยอาวุธที่มีความแม่นยำสูงกับยูเครนในช่วงข้ามคืน อ้างอิงจากสื่ออินเตอร์แฟกซ์ โดยรัสเซียปฏิเสธว่ามุ่งโจมตีพลเรือนนับตั้งแต่รุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022
บล็อกเกอร์สายทหารรัสเซียหลายราย ระบุว่าการโจมตีของมอสโกเป็น “การตอบโต้” การบุกแคว้นเคิร์สกทางตะวันตกของรัสเซีย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีกองทัพต่างชาติรุกเข้ามาในดินแดนรัสเซียนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
- ที่มา: รอยเตอร์