สื่อหลายแห่งรายงานตรงกันว่า เยฟเกนี พริโกซิน หัวหน้ากองกำลังกึ่งทหาร แวกเนอร์ กรุ๊ป (Wagner Group) ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลรัสเซีย เสนออาวุธให้แก่กลุ่มที่กำลังรบอยู่ในซูดาน
นับตั้งแต่การสู้รบในซูดานปะทุขึ้นเมื่อเดือนเมษายน มีรายงานที่ไม่ได้รับการยืนยันหลายชิ้นและแหล่งข่าวทางการทูตที่เปิดเผยกับสื่อต่าง ๆ ว่า นักรบรับจ้างของแวกเนอร์ กรุ๊ป ให้การหนุนหลังกองกำลังกึ่งทหารเคลื่อนที่เร็ว หรือ อาร์เอสเอฟ (Rapid Support Forces) โดยได้จัดส่งอาวุธให้แก่กองกำลังดังกล่าวซึ่งต่อสู้อยู่กับกองทัพบกซูดาน
คาเมรอน ฮัดสัน อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และนักวิชาการอาวุโสที่ Center for Strategic and International Studies กล่าวกับวีโอเอว่า แวกเนอร์ กรุ๊ป ได้จัดส่งระบบป้องกันทางอากาศเคลื่อนที่ เครื่องยิงจรวดแบบประทับบ่า ปืนทำลายรถถังและอาวุธหุ้มเกราะ ให้แก่กองกำลังอาร์เอสเอฟในซูดาน
แต่ทางอาร์เอสเอฟออกมาปฏิเสธเรื่องได้รับความช่วยเหลือจากรัสเซีย
ด้านนักวิเคราะห์เตือนว่า การที่มีกลุ่มภายนอกอย่าง แวกเนอร์ กรุ๊ป เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสงครามกลางเมืองในซูดาน อาจยิ่งทำให้ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น เห็นได้จากประวัติด้านลบและเกียรติศัพท์ความโหดร้ายของกลุ่มนี้ในแอฟริกา
จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวว่า การที่กลุ่มแวกเนอร์เข้าไปมีส่วนร่วมในซูดานอาจยิ่งเป็นการโหมกระพือความขัดแย้งครั้งนี้ "เราไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งในซูดานลุกลามออกไป"
เมื่อวันอังคาร รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ กล่าวที่สหประชาชาติว่า บรรดาผู้นำในแอฟริกาจะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะยินยอมให้กลุ่มแวกเนอร์เข้าไปมีส่วนร่วมหรือไม่ "ทั้งสาธารณรัฐแอฟริกากลาง มาลี ซูดาน และประเทศอื่น ๆ ที่มีรัฐบาลอันชอบธรรม ต่างมีสิทธิ์ในการตัดสินใจในส่วนนี้"
การต่อสู้ระหว่างทหารบกที่จงรักภักดีต่อพลเอกอับเดล ฟัตตาห์ อัล-เบอร์ฮาน ประธานสภาอธิปไตย ผู้ดูแลเรื่องการถ่ายโอนอำนาจการบริหารในซูดาน กับทหารกองหนุนของกองกำลังกึ่งทหารเคลื่อนที่เร็ว หรือ อาร์เอสเอฟ (Rapid Support Forces) นำโดยพลเอกโมฮาเหม็ด ฮัมดาน ดากาโล รองประธานสภาอธิปไตย เริ่มต้นขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
รายงานระบุว่า กองทัพบกและกองกำลังอาร์เอสเอฟ เกิดความบาดหมางกันจากประเด็นเรื่องความพยายามควบรวมอาร์เอสเอฟไว้เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพบกซูดาน และใครจะเป็นผู้ดูแลกระบวนการดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปฏิรูปซูดานให้กลับสู่การปกครองของพลเรือน และยุติวิกฤตการเมืองหลังการรัฐประหารเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2021
โดยไม่นานหลังจากที่รัสเซียบุกรุกยูเครน ผู้นำกองกำลังอาร์เอสเอฟได้เดินทางไปยังรัสเซียเพื่อขอความสนับสนุนจากกลุ่มแวกเนอร์ และได้โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ว่า "เราหวังจะเดินหน้าสานสัมพันธ์ระหว่างซูดานกับรัสเซียในหลายด้าน และกระชับความร่วมมือที่มีอยู่แล้วให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น"
ทั้งนี้ แวกเนอร์ กรุ๊ป มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลซูดานชุดก่อน ซึ่งอนุญาตให้บริษัทในเครือของแวกเนอร์เข้าไปทำเหมืองทองคำในซูดาน ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่า การที่รัสเซียสนับสนุนกองกำลังอาร์เอสเอฟคือการปกป้องผลประโยชน์ในส่วนของรัสเซียเอง โดยเฉพาะเหมืองทองคำเหล่านั้นและการลักลอบขนส่งทองคำออกจากซูดาน
นักวิเคราะห์ชี้ว่า รัสเซียมองซูดานว่าเป็นจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ในแอฟริกา และมีทรัพยากรแร่ธาตุมากมายมหาศาล ดังจะเห็นได้จากการที่รัสเซียพยายามสร้างท่าเรือในแถบทะเลแดงของซูดานผ่านความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกองทัพ
- ที่มา: วีโอเอ