รัฐบาลรัสเซียปฏิเสธคำเรียกร้องของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ให้รัสเซียถอนทหารออกจากเวเนซูเอลา โดยทางเครมลินบอกว่า ทหารที่รัสเซียส่งเข้าไปในเวเนซูเอลานั้น เป็นไปตามสนธิสัญญาทางทหารที่รัสเซียทำไว้กับรัฐบาลประธานาธิบดีนิโคลาส์ มาดูโร
นายดิมิทรี เพสคอฟ โฆษกของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ตอบคำถามเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ที่ต้องการให้รัสเซียถอนทหารและยุติความช่วยเหลือทุกอย่างที่ให้กับรัฐบาลนายมาดูโร โดยบอกว่า "ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับเวเนซูเอลา ไม่ใช่เรื่องที่ประเทศที่สามต้องมาเป็นกังวล"
นายเพสคอฟ กล่าวด้วยว่า "ที่ผ่านมา สหรัฐฯ เข้าไปแทรกแซงกิจการของประเทศอื่นทั่วโลก และก็ไม่มีใครไปคอยบอกว่าอะไรควรไม่ควร"
และว่า "รัสเซียเองก็ควรมีสิทธิเต็มที่ในการพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศที่มีผลประโยชน์ร่วมกันกับรัสเซียเช่นกัน"
"รวมถึงเวเนซูเอลา ที่มีสนธิสัญญาทางทหารกับรัสเซีย" โฆษกของ ปธน.ปูติน กล่าว
เมื่อวันพุธ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวที่ทำเนียบขาวว่า "รัสเซียต้องออกจากเวเนซูเอลา" หลังจากมีรายงานว่ารัสเซียได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปในเวเนซูเอลา
โดยผู้นำสหรัฐฯ เน้นย้ำว่า "ทุกทางเลือกยังคงอยู่ในการพิจารณา" ซึ่งรวมถึงการใช้มาตรการทางทหารในเวเนซูเอลาเพื่อนำทหารรัสเซียออกมาด้วย
ด้านรอง ปธน.เพนซ์ แถลงข่าวว่า "สหรัฐฯ มองว่าการที่รัสเซียส่งเครื่องบินทหารเข้าไปในเวเนซูเอลาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คือการยั่วยุอย่างไม่ประสงค์ดี" และว่า "สหรัฐฯ ขอให้รัสเซียยุติการสนับสนุน ปธน.นิโคลาส์ มาดูโร และหันมายืนเคียงข้างนายกวัยโด้ ร่วมกับประเทศอื่นๆ อีก 50 ประเทศทั่วโลก"
เครื่องบินของกองทัพอากาศรัสเซียสองลำได้นำเจ้าหน้าที่และทหารรัสเซียเกือบ 100 คน ไปส่งยังสนามบินแห่งหนึ่งในกรุงคาราคาสเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
แต่ทางการรัสเซียระบุว่า ทหารเหล่านั้นเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาซ่อมบำรุงและแลกเปลี่ยนทางการทหารที่รัสเซียทำไว้กับเวเนซูเอลา