ผู้นำฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลรัสเซีย อเล็กเซ นาวาลนี ยืนยันในวันอังคารว่าตนได้ย้ายมาอยู่ในเรือนจำที่เขาอธิบายว่าเป็นเรือนจำที่ปกคลุมไปด้วยหิมะเหนืออาร์กติกเซอร์เคิล และว่ายังมีกำลังใจดีอยู่แม้จะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางร่วม 20 วันเพื่อมาถึงเรือนจำแห่งใหม่นี้ ตามรายงานของรอยเตอร์
นาวาลนี โพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ X ผ่านทนายของเขา หลังจากขาดการติดต่อไปมากกว่า 2 สัปดาห์ ระหว่างการถูกนำตัวไปยังเรือนจำแห่งใหม่ที่ไม่ได้รับการเปิดเผยข้อมูลใด ๆ ออกมา ซึ่งสร้างความกังวลถึงความเป็นไปของผู้นำการต่อต้านรัฐบาลเครมลินในช่วงที่ผ่านมา
โฆษกของนาวาลนี เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่านาวาลนี วัย 47 ปี ย้ายไปอยู่ที่เรือนจำ IK-3 ทางตอนเหนือของอาร์กติกเซอร์เคิล ในเขตคาร์พ เขตปกครองยามาโล-เนเนตส์ ของรัสเซีย ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมอสโกเมืองหลวงไปราว 1,900 กิโลเมตร
นาวาลนี โพสต์ติดตลกเป็นครั้งแรกหลังจากย้ายมาอยู่เรือนจำแห่งใหม่ โดยบอกว่า “ผมคือฟาเตอร์ ฟรอสต์คนใหม่” เพื่อสื่อถึงสภาพอากาศอันเลวร้ายที่เรือนจำ และว่า “20 วันในการย้ายมาเป็นสิ่งที่เหนื่อยล้าอย่างมาก แต่ผมยังอยู่ในอารมณ์ที่ดีอยู่ เหมือนกับที่ฟาเตอร์ ฟรอสต์ควรจะเป็น”
ทั้งนี้ เรือนจำแห่งใหม่ของนาวาลนี รู้จักกันในชื่อ the Polar Wolf เป็นหนึ่งในเรือนจำที่มีความเข้มงวดสูงสุดแห่งหนึ่งของรัสเซีย ทั้งนักโทษส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ต้องโทษอาชญากรรมร้ายแรง และสภาพอากาศของเรือนจำที่เลวร้ายในฤดูหนาว ที่อุณหภูมิเตรียมดิ่งหนักสุด -28 องศาเซลเซียสในสัปดาห์หน้า
โฆษกของนาวาลนี เชื่อว่าการตัดสินใจย้ายนาวาลนีไปเรือนจำที่ห่างไกลและสถานที่ไม่เอื้ออำนวยเพื่อหวังโดดเดี่ยวนาวาลนี เพื่อทำให้ชีวิตลำบากขึ้น และทำให้ทนายความและพันธมิตรเข้าถึงเขาได้ยากขึ้น
นาวาลนี ยังได้กล่าวขอบคุณผู้สนับสนุนที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับสวัสดิภาพของเขา และว่าเขาได้รับการคุ้มกันโดยหน่วยรักษาความปลอดภัยที่มีปืนกลติดตัวและสุนัขตำรวจ โดยมีเวลาได้เดินออกกำลังในห้องขังที่อยู่ใกล้เคียงบ้าง และได้พบกับทนายความของเขาหนึ่งคนด้วย
รัฐบาลรัสเซียระบุให้นาวาลนีและผู้สนับสนุนเป็นกลุ่มหัวรุนแรงที่มีความเชื่อมโยงกับสำนักงานข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ หรือ ซีไอเอ ที่รัสเซียระบุว่ามีเป้าหมายในการบ่อนทำลายเสถียรภาพรัสเซีย ซึ่งนาวาลนี ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาจากความผิดที่เจ้าตัวระบุว่า เป็นข้อกล่าวหาที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองทั้งสิ้น และกล่าวว่าการจับกุมคุมขังเขาเป็นเพราะเขาถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อกลุ่มที่มีอำนาจทางการเมืองของรัสเซีย
- ที่มา: รอยเตอร์