กองทัพรัสเซียเปิดเผยในวันจันทร์ว่า ฝ่ายตนสามารถยิงโดรนที่ยูเครนส่งเข้ามาโจมตีพื้นที่หลายจุดตกสำเร็จ
กระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าวว่า ระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศของตนทำลายโดรน 4 ลำที่ถูกส่งมายังเขตปกครองบรีแยนสก์ และอีก 2 ลำที่เหนือน่านฟ้าเขตปกครองโอร์ยอล รวมทั้งอีกลำที่เขตเบลโกรอด
และในวันจันทร์เช่นกัน กระทรวงกลาโหมยูเครนส่งสัญญาณเตือนว่า รัสเซียจะทำการโจมตีทางอากาศเข้าใส่เขตปกครองดอแนตสก์ ซูมี ดนิโปรเปตรอฟสก์ และคาร์คิฟ
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี วิพากษ์วิจารณ์แบบอ้อม ๆ ต่อความเห็นของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสที่ว่า ยูเครนควรจะมี “ความกล้าหาญ” ที่จะเจรจากับรัสเซียหลังสงครามระหว่างสองประเทศดำเนินมากว่า 2 ปีแล้ว
ในการแถลงข่าวผ่านระบบออนไลน์เมื่อคืนวันอาทิตย์ เซเลนสกียังได้ขอบคุณผู้นำศาสนาของยูเครนที่ยืนหยัดอยู่ที่แนวหน้าของการรบ “เพื่อปกป้องชีวิตและมนุษยชาติ” และเป็นผู้ที่แสดงการสนับสนุนด้วย “การสวดภาวนา การพูดคุยและการลงมือทำ”
ผู้นำยูเครนกล่าวด้วยว่า “นี่คือสิ่งที่ศาสนจักรเป็น” ... “(คือ) ยืนข้างประชาชน ไม่ใช่อยู่ห่างไป 2,500 กิโลเมตร – ที่ใดที่หนึ่ง เฝ้ารอที่จะนั่งทำสมาธิแบบเสมือนจริงในกลุ่มคนที่ต้องการมีชีวิตอยู่และผู้ที่ต้องการทำลายคุณ” โดยรายงานข่าวระบุว่า คำกล่าวนี้เป็นการอ้างถึงคำพูดของผู้นำคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อ RSI ของสวิตเซอร์แลนด์
ดมีโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน เป็นอีกคนที่ออกมาวิจารณ์ประเด็นนี้ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และเรียกร้องให้โป๊ปฟรานซิสยืน “อยู่ในฝั่งคนดี” และไม่นำฝ่ายตรงกันข้าม “มาอยู่ข้างเดียวกันและเรียกจุดนั้นว่าเป็น ‘การเจรจา’”
อย่างไรก็ดี รมว.ต่างประเทศยูเครนกล่าวขอบคุณโป๊ปฟรานซิสสำหรับ “คำสวดภาวนาอย่างต่อเนื่องให้เกิดสันติ” และระบุว่า กรุงเคียฟหวังว่าจะได้ต้อนรับผู้นำคริสตจักรในอนาคตด้วย
ฝ่าย มัตเตโอ บรูนี โฆษกวาติกัน ตอบโต้คำวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหลายว่า โป๊ปฟรานซิสทรงร้องขอให้ “มีการยุติความเป็นปรปักษ์ (และ) การสงบศึกผ่านการเจรจา” ไม่ใช่การยอมแพ้ทันทีของฝ่ายยูเครน
- ข้อมูลบางส่วนมาจากรอยเตอร์ เอพีและเอเอฟพี