Your browser doesn’t support HTML5
ในงานแถลงข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่นักข่าวตั้งตารอมาเกือบ 6 เดือน ประเด็นที่ถูกหยิบยกมาเป็นหัวข้อร้อนคือเรื่อง “แฟ้มลับ”
“แฟ้มลับ” ที่ว่านี้ไม่มีการยืนยันความถูกต้องของข่าวสารเกี่ยวกับทรัมป์ และความสัมพันธ์ของเขากับรัสเซีย การเผยแพร่ข้อมูลต่อจึงถูกตั้งคำถามเรื่องจรรยาบรรณของสื่อ
ทรัมป์จึงตำหนิสื่อที่เผยแพร่ข้อมูลจาก “แฟ้มลับ” อย่างรุนแรง และบอกว่าเนื้อหาที่ถูกนำมาเผยแพร่เป็นข่าวเท็จ ที่ถูกจัดทำขึ้นเพื่อทำลายชื่อเสียงของตน
ความสลับซับซ้อนของที่มาที่ไปของ “แฟ้มลับ” ที่ว่านี้คงเป็นที่พูดถึงกันต่อไปอีก
แต่หากย้อนกลับไปดูเทคนิคการใช้ข้อมูลใส่ร้ายในการต่อรอง หรือเพื่อบั่นทอนฝ่ายตรงข้าม จะพบว่าเกิดขึ้นบ่อยครั้งในประวัติการเมืองรัสเซีย
และมีภาษารัสเซียสำหรับเทคนิคนี้ว่า “Kompromat”
อดีตสมาชิกสภา Duma ของรัสเซีย Gennady Gudkov ผู้ที่เคยทำงานด้านความมั่นคงให้กับรัฐบาล Kremlin ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอว่า รัฐบาลรัสเซียใช้เทคนิคที่ว่านี้มาตลอด
เขาบอกว่าถือเป็นเรื่องสำคัญของรัฐบาลในระดับนโยบาย ที่ต้องมีปฏิบัติการเก็บข้อมูลที่ใช้ต่อรองกับฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง และมีการสอดแนมผ่านระบบคอมพิวเตอร์ อัดเสียงโดยฝ่ายตรงข้ามไม่รู้ตัว และดึงข้อมูลการติดต่อสื่อสารเป็นประจำ
ในที่สุดแล้วข้อมูลเหล่านั้นก็อาจถูกปล่อยมาสู่มือนักข่าวในการทำสงครามจิตวิทยา
ในยุคก่อนการล่มสลายของสหภาพโซเวียต หน่วยข่าวกรอง KGB เป็นกลไกหลักที่ปฏิบัติภารกิจ Kompromat และบ่อยครั้งข้อมูลถูกใช้ทำลายชื่อเสียง หรือ blackmail นักการทูตต่างประเทศ
ข้อมูลที่ KGB ใช้ในสงครามข่าวสาร รวมไปถึงพฤติกรรมทางเพศที่สามารถนำมาเป็นเครื่องต่อรองทางการเมืองด้วย
และเมื่อเข้าสู่ยุคหลังสงครามเย็น Kopromat ยังพบเห็นอยู่ในวงการการเมืองเช่นเคย แต่เริ่มมีการใช้กลเม็ดนี้เพื่อแก้แค้นทางธุรกิจมากขึ้น
นักข่าวและนักเขียนผลงานตลก Viktor Shenderovich กล่าวว่าตนเริ่มได้ยินคำว่า Kompromat ครั้งแรกในทศวรรษที่ 1990 ซึ่งเกิดขึ้นในเวลาเดียวกับกระแสการเปลี่ยนแปลงที่สื่อมีเสรีภาพมากขึ้น ประจวบกับการที่นักข่าวบางคนรับเงินเพื่อเสนอข่าวตามความประสงค์ของผู้มีอิทธิพล
ในยุคดังกล่าว ผู้ชมโทรทัศน์ชาวรัสเซียได้เห็นภาพคลิปอื้อฉาวเมื่อปี ค.ศ. 1999 ที่อัยการสูงสุดของรัสเซีย นาย Yuri Skuratov อยู่ในห้องเซาว์น่าและถูกรายล้อมไปด้วยสตรีผู้ขายบริการทางเพศ ซึ่งในเวลานั้นเขาเป็นกำลังสำคัญในการสืบสวนกรณีคอร์รัปชั่นของรัฐบาลประธานาธิบดี Boris Yeltsin
ไม่นานหลังจากนั้นอัยการผู้นี้ถูกไล่ออกจากตำแหน่ง และการสืบสวนรัฐบาลประธานาธิบดี Yeltsin ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด
ล่าสุดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาของรัสเซียเมื่อปีที่แล้ว เทคนิค Kompromat ถูกนำมาใช้อีกครั้ง เมื่อสถานีโทรทัศน์ NTV ที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับรัฐบาลรัสเซีย เสนอข่าวเด่นที่เป็นคลิปหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน PARNAS นาย Mikail Kasyanov ร่วมหลับนอนกับสมาชิกพรรคอีกผู้หนึ่ง
ข่าวอื้อฉาวนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อชื่อเสียงของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งต่อมาแพ้ราบคาบต่อพรรคที่เป็นฝ่ายเดียวกับรัฐบาลของประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน
นักข่าว Viktor Shenderovich กล่าวว่าคนในวงการสื่อสารมวลชนก็ตกเป็นเป้าของ Kompromat เช่นกัน โดยสื่อของรัฐบาลมีส่วนช่วยบั่นทอนชื่อเสียงของนักข่าวที่วิจารณ์การเข้าผนวกแคว้นไครเมียโดยประธานาธิบดีปูติน ให้เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
เขากล่าวส่งท้ายว่า คำว่า Kompromat ในยุคปัจจุบัน เป็นสัญลักษณ์ของการปกครองรัสเซียภายใต้ประธานาธิบดีปูติน อย่างที่คนจำอดีตประธานาธิบดี Mikhail Gorbachev ได้จากคำว่า Perestroika นั่นเอง
(รายงานโดย Charles Mayne / เรียบเรียงโดย รัตพล อ่อนสนิท)