ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงแสดงความสงสัยต่อรายงานข่าวกรองของรัฐบาลประธานาธิบดีโอบาม่า ที่ว่าแฮกเกอร์รัสเซียได้แทรกแซงกระบวนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือน พ.ย.
แต่ในขณะเดียวกัน สมาชิกพรรครีพับลิกันบางคนได้ออกมาเรียกร้องให้มีมาตรการลงโทษที่รุนแรงขึ้นต่อรัสเซีย
คณะกรรมาธิการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการทหารของวุฒิสภาสหรัฐฯ ประชุมกันในวันพฤหัสบดี เพื่อรับฟังคำให้การในกรณีที่เกี่ยวกับรายงานข่าวกรองของรัฐบาลประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า ที่ว่าแฮกเกอร์รัสเซียได้แทรกแซงกระบวนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือน พ.ย.
รายงานข่าวกรองดังกล่าวจัดทำโดย สำนักข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯ ร่วมกับ FBI และกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ (Homeland Security) นำไปสู่การใช้มาตรการลงโทษรัสเซีย ด้วยการขับเจ้าหน้าที่รัสเซีย 35 คนออกจากสหรัฐฯ ภายใน 72 ชม. และปิดอาคารที่ตั้งของหน่วยงานด้านข่าวกรองของรัสเซียในสหรัฐฯ 2 แห่ง
เมื่อวานนี้ วุฒิสมาชิก จอห์น แม็คเคน จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานของคณะกรรมการชุดนี้ ได้กล่าวไว้ว่า “เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า รัสเซียอยู่เบื้องหลังการลอบเจาะล้วงข้อมูลเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในสหรัฐฯ และแทรกแซงกระบวนการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งเป็นการมุ่งทำลายรากฐานทางประชาธิปไตยของอเมริกา และถือเป็นการกระทำที่ต้องการให้เกิดสงคราม”
สว. จอห์น แม็คเคน กล่าวว่า “วุฒิสภาสหรัฐฯ จะพยายามให้มีมาตรการลงโทษที่รุนแรงขึ้นต่อรัสเซีย เพื่อป้องกันการลอบโจมตีเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในสหรัฐฯ อีกในอนาคต"
สว. จากพรรครีพับลิกันผู้นี้ ผู้เคยลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่พ่ายแพ้ให้กับประธานาธิบดีโอบาม่า ยังกล่าวด้วยว่า วุฒิสภาสหรัฐฯ พร้อมที่จะต่อสู้กับประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ คือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในประเด็นนี้แล้ว
ด้านคุณไบรอัน คาตูลิส นักวิเคราะห์แห่ง Center for American Progress กล่าวว่า "ประเด็นที่น่าสังเกตคือ สมาชิกพรรครีพับลิกันในรัฐสภาได้ขอให้มีการสอบสวนเป็นพิเศษต่อเรื่องนี้ มากยิ่งกว่าที่ประธานาธิบดีโอบาม่ามีคำสั่งลงมาต่อหน่วยงานข่าวกรองต่างๆ เสียอีก"
นักวิเคราะห์ผู้นี้กล่าวด้วยว่า ผลสำรวจความเห็นคนอเมริกันล่าสุดชี้ให้เห็นว่า ประชาชนมีความกังวลอย่างยิ่งต่อบทบาทและความเกี่ยวข้องของรัสเซียในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ผ่านมา และว่าเวลานี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังนำตัวเองไปอยู่นอกกระแสความเชื่อของประชาชนอเมริกันส่วนใหญ่
คุณไบรอัน คาตูลิส ชี้ว่านอกจากการมีจุดยืนในเรื่องรัสเซียแตกต่างจากคนอเมริกันส่วนใหญ่แล้ว ทรัมป์ยังมีท่าทีขัดกับธรรมเนียมปฏิบัติดั้งเดิมในด้านนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่มักมองว่ารัสเซียยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับอเมริกา
เมื่อวานนี้ ว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความระบุถึงเรื่องแฮกเกอร์ชาวรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้ง โดยมีคำถามไปถึงคณะกรรมการแห่งชาติของพรรคเดโมแครตว่า
“ทำไมจึงประมาทเลินเล่อจนปล่อยให้แฮกเกอร์สามารถเข้าไปลอบเจาะล้วงข้อมูลอีเมล์ของนายจอห์น โพเดสต้า ประธานคณะหาเสียงของนางฮิลลารี่ คลินตั้น? และทำไมจึงไม่มีระบบป้องกันแฮกเกอร์เหมือนที่พรรครีพับลิกันใช้?”
และก่อนหน้านี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวยกย่องท่าทีของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ว่า “ชาญฉลาด” ที่ไม่ใช้มาตรการตอบโต้มาตรการลงโทษของประธานาธิบดีโอบาม่า
รวมทั้งการที่ทรัมป์เสนอชื่อ นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน อดีตซีอีโอของ ExxonMobil ผู้ใกล้ชิดสนิทสนมกับประธานาธิบดีปูติน ให้นั่งในตำแหน่ง รมต. ต่างประเทศสหรัฐฯ คนใหม่ด้วย
(ผู้สื่อข่าว Zlatica Hoke รายงาน / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)
