Your browser doesn’t support HTML5
เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ออกคำสั่งให้หน่วยงานของรัฐเลิกใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท Kaspersky Lab ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านความมั่นคงทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่กรุงมอสโคว
รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ Elaine Duke ออกคำสั่งดังกล่าวในวันพุธ โดยให้เวลาหน่วยงานต่างๆ ปฏิบัติตามภายใน 90 วัน
กระทรวงดังกล่าวระบุในแถลงการณ์ว่า มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูลที่เกิดขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท Kaspersky Lab
เจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยด้านระบบไซเบอร์ของทำเนียบขาว Robert Joyce กล่าวว่า เนื่องจากบริษัทดังกล่าวต้องทำงานไปตามการขอความร่วมมือของหน่วยงานสอดแนมรัสเซีย สหรัฐฯ จึงไม่สามารถรับความเสี่ยงนี้ได้
ที่ผ่านมา บริษัท Kaspersky Lab ปฏิเสธหลายครั้งว่าไม่ได้ช่วยทางการรัสเซียสอดแนมสหรัฐฯ
เมื่อวันอังคาร Eugene Kaspersky ผู้ก่อตั้งบริษัท ประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่า แม้จะมีความปั่นป่วนในการเมืองระหว่างประเทศ บริษัทยังคงยึดมั่นในการให้บริการต่อลูกค้าชาวอเมริกัน
คำสั่งจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิครั้งนี้ เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯ เตือนว่า รัสเซียกำลังเพิ่มระดับการปฏิบัติการด้านการสอดแนมบนโลกไซเบอร์ที่มุ่งเป้ามาที่สหรัฐฯ
ผู้อำนวยการหน่วยงานข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯ Dan Coats กล่าวว่า ศัตรูที่มีความหลากหลาย พยายามที่จะส่งอิทธิพลต่อความคิดของประชาชนอเมริกัน และใช้สิ่งนี้เป็นอาวุธต่อสู้กับสหรัฐฯ
เขากล่าวว่า “ความพยายามนี้ต้องการบั่นทอนศรัทธาของประชนที่มีต่อสถาบันในสหรัฐฯ หรือผลักดันให้เกิดความรุนแรงในรูปแบบของการแสดงจุดยืนความเป็นตัวตนของคนบางกลุ่ม”
รายงานที่ถูกเปิดเผยเมื่อเดือนมกราคมชี้ว่า หน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯ เชื่อว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ดำเนินแผนการที่ต้องการส่งผลถึงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปลายปีที่แล้ว เพื่อสนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์ตั้งคำถามหลายครั้งถึงความน่าเชื่อถือของรายงานดังกล่าว
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วบริษัทสื่อสังคมออนไลน์ Facebook เปิดเผยว่า มีบัญชีผู้ใช้ที่เชื่อมโยงกับรัสเซียที่จ่ายค่าโฆษณาเนื้อหาการเมืองหลายพันชุด ในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
แม้ว่าบางบัญชีรายชื่อจะถูกสร้างขึ้นในอเมริกา แต่ Facebook กล่าวว่า บัญชีเหล่านี้เลือกภาษารัสเซียในการตั้งระบบเพื่อการใช้
หลังจากที่ทราบข่าวนี้ วุฒิสมาชิก Mark Warner จากพรรคเดโมแครต ตำแหน่งรองประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐฯ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวของ Facebook น่าจะเป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ เปรียบเหมือนยอดภูเขาน้ำแข็ง
และปัญหาการใช้สื่อออนไลน์ส่งอิทธิพลต่อการเมืองอเมริกันโดยฝ่ายรัสเซีย น่าจะเกิดขึ้นกับ Google และ Twitter ด้วย
(รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียงจากรายงานของ Jeff Seldin)