หลังจากที่หนังสือพิมพ์ New York Times รายงานเมื่อค่ำวันจันทร์ว่า นายร็อบ โกลด์สโตน ผู้เป็นคนกลางจัดการพบปะระหว่างบุตรชาย บุตรเขย และอดีตผู้จัดการฝ่ายหาเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันเมื่อปีที่แล้ว กับนักกฎหมายของรัสเซีย ได้แจ้งต่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายคนโตของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่ารัฐบาลรัสเซียมีข้อมูลซึ่งจะใช้โจมตีนางฮิลลารี คลินตัน ซึ่งเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตได้ ทำเนียบขาวก็ได้ออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาเรื่องการสมคบคิดกับรัสเซีย เพื่อให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
รองโฆษกทำเนียบขาวได้แถลงปฏิเสธว่า ไม่มีการสมรู้ร่วมคิดใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อให้มีผลต่อการเลือกตั้งของสหรัฐฯ และที่ปรึกษาคนหนึ่งของประธานาธิบดีทรัมป์ ก็ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ว่า การพบปะที่นครนิวยอร์กเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ไม่มีข้อมูลซึ่งเป็นประโยชน์หรือมีความหมายใดๆ ทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม การพบปะระหว่างบุตรชาย บุตรเขย และอดีตผู้จัดการฝ่ายหาเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ กับนักกฎหมายของรัสเซียดังกล่าว เกิดขึ้นสองสัปดาห์หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
และมีขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่เว็บไซต์ Wikileaks จะเผยแพร่ข้อมูลซึ่งเป็นผลเสียต่อนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนของพรรคเดโมแครต
อย่างไรก็ตาม พรรคเดโมแครตดูจะไม่คล้อยตามคำปฏิเสธของทำเนียบขาว และเรียกร้องให้มีการสอบสวนข้อกล่าวหาเรื่องการสมรู้ร่วมคิดนี้อย่างถี่ถ้วน โดยขณะนี้ทั้งคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีคณะทำงานอิสระที่กำลังสอบสวนเรื่องนี้อยู่
อาจารย์โทมัส วาร์เลน จากมหาวิทยาลัยบอสตันผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับประธานาธิบดีหลายเล่ม ได้ตั้งคำถามว่า เพราะเหตุใดจึงมีการพบปะกันบ่อยครั้งระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ กับเจ้าหน้าที่ของรัสเซีย?
ส่วนวุฒิสมาชิกชาร์ล ชูเมอร์ ของพรรคเดโมแครต ผู้นำพรรคฝ่ายค้านในวุฒิสภา ก็ได้ยืนยันข้อสรุปของหน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯ 17 หน่วย ที่มีความเห็นตรงกันว่า รัสเซียจงใจเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐฯ โดยมุ่งเจาะไปที่บุคคลในระดับสูงที่สุด
และว่าการเข้าแทรกแซงนี้เป็นความพยายามบ่อนทำลายระบบประชาธิปไตยของสหรัฐฯ ซึ่งก็เป็นข้อกล่าวหาที่ทำเนียบเครมลินปฏิเสธ