รัสเซียกล่าวในวันอาทิตย์ว่า กองทัพสามารถยังยั้งการรุกคืบของยูเครนเข้ามาในแคว้นเคิร์สกได้ในหลายจุดให้อยู่ไม่เกิน 30 กิโลเมตรจากชายแดนรัสเซีย-ยูเครน
เมื่อช่วงค่ำของวันเสาร์ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ออกมายอมรับอย่างอ้อม ๆ เป็นครั้งแรกว่า กองกำลังกรุงเคียฟได้ขยายการต่อสู้เข้าไปในอาณาเขตของรัสเซียในช่วง 6 วันที่ผ่านมา โดยระบุในการแถลงข่าวรายวันทางโทรทัศน์ว่า ปฏิบัติการของกองทัพยูเครนได้ “ผลักดันสงครามเข้าไปในอาณาเขตของผู้รุกราน” แล้ว และยังได้กล่าวขอบคุณเหล่าทหารที่มีส่วนร่วมในปฏิบัติการโจมตีเข้าใส่รัสเซีย พร้อมกล่าวว่า “ยูเครนกำลังพิสูจน์ว่า มีความสามารถที่จะนำมาซึ่งความเป็นธรรมและรับประกันว่า จะสร้างแรงกดดันที่ควรมี – แรงกดดันต่อผู้รุกราน ได้”
อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมรัสเซียอ้างว่า กำลังทหารของตนได้ “ทำลายความพยายามของกลุ่มเคลื่อนไหวของศัตรูที่มาพร้อมพาหนะหุ้มเกราะในการฝ่าลึกเข้ามาในดินแดนของรัสเซีย”
ทั้งนี้ การรุกเข้าไปในอาณาเขตของรัสเซียโดยยูเครนที่ดำเนินมาถึงวันที่ 6 ในวันอาทิตย์เป็นสิ่งที่กองทัพยูเครนไม่เคยทำมาก่อน แต่ก็ไม่มีใครทราบถึงเป้าหมายที่แท้จริงของปฏิบัติการของกรุงเคียฟ โดยเจ้าหน้าที่กองทัพยึดมั่นในนโยบายการรักษาความลับอย่างแข็งขัน ขณะที่ ปธน.เซเลนสกีไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่มเติมในการแถลงข่าวประจำวัน
เมื่อวันเสาร์ รัสเซียเปิดเผยว่า ในช่วงต้น กองกำลังของกรุงเคียฟที่ประกอบด้วยทหาร 1,000 นาย รถหุ้มเกราะ 20 คันและรถถัง 11 คันข้ามแดนและรุกเข้ามาในดินแดนรัสเซีย
ส่วนเบลารุสที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดของรัสเซีย ได้สั่งเสริมกำลังทางทหารทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศตามแนวชายแดนติดกับยูเครนในวันเสาร์ เพื่อเตรียมรับมือการรุกรานของยูเครน ตามการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมเบลารุส
ขณะเดียวกัน การต่อสู้ระหว่างสองฝ่ายในหลายจุดยังดำเนินต่อไป
ภาพการระเบิดบนท้องฟ้าเหนือกรุงเคียฟ หลังการโจมตีโดยโดรนและขีปนาวุธของรัสเซีย เมื่อ 11 ส.ค. 2567
ในช่วงข้ามคืนวันเสาร์เข้าสู่เช้าวันอาทิตย์ รัสเซียส่งโดรนและยิงขีปนาวุธจำนวนหนึ่งเข้าใส่กรุงเคียฟ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน โดยหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินของยูเครนรายงานว่า พบร่างชายวัย 35 ปีและลูกชายวัย 4 ขวบใต้ซากขีปนาวุธที่ตกใส่พื้นที่ที่อยู่อาศัยที่เขตชานเมืองกรุงเคียฟ ขณะที่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 คนจากการโจมตีของรัสเซีย
เซอร์ฮีย์ โพพโก หัวหน้าฝ่ายบริหารกิจการทางทหารของกรุงเคียฟ กล่าวว่า นี่เป็นการโจมตีรอบที่ 2 เข้าใส่พื้นที่มหานครเคียฟของเดือนนี้ และว่า ขีปนาวุธแบบทิ้งตัวของรัสเซียไม่ได้มาถึงกลางเมืองหลวง เพราะตกในแถบชายเมืองเสียก่อน ขณะที่ ระบบป้องกันการป้องกันการโจมตีทางอากาศยิงขีปนาวุธลูกอื่นๆ ตกหมด
ส่วนที่รัสเซีย ผู้ว่าการแคว้นเคิร์สก์กล่าวว่า มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ 15 คนจากการเศษซากขีปนาวุธของยูเครนที่ระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศรัสเซียยิงตกและหล่นเข้าใส่อาคารที่พักอาศัยแห่งหนึ่ง
กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยด้วยว่า ได้ยิงโดรนจำนวน 35 ลำที่ยูเครนส่งมาในช่วงข้ามคืนก่อนหน้าตกเหนือน่านฟ้าแคว้นเคิร์สก โวโรเนช เบลโกรอด บริแยงสก์ และโอร์โยล
- ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี รอยเตอร์และเอเอฟพี