เมื่อวันศุกร์ บรรดาผู้นำประเทศที่เข้าร่วมการประชุมขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้เน้นย้ำว่า จำเป็นจะต้องสร้างความร่วมมือกับรัฐบาลตาลิบันเพื่อป้องกันการเกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมและการล่มสลายของเศรษฐกิจในอัฟกานิสถาน
การประชุมที่จัดขึ้นในทาจิกิสถานครั้งนี้มีขึ้นหนึ่งเดือนหลังจากกลุ่มตาลิบันยึดอำนาจการปกครองในกรุงคาบูล เมื่อกองกำลังจากชาติตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากอัฟกานิสถาน และนับเป็นการยุติสงครามที่ยาวนานเกือบ 20 ปีนี้
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าวผ่านทางวิดีโอว่า เขาเรียกร้องให้กลุ่มตาลิบันช่วยกำจัดการก่อการร้าย โดยจีนจะเพิ่มความช่วยเหลือแก่อัฟกานิสถาน และเรียกร้องให้ประเทศอื่นๆ เพิ่มการช่วยเหลือนี้ด้วย
สื่อจีนรายงานคำพูดของผู้นำจีนที่เรียกร้องให้ประเทศที่เข้าร่วมการประชุมสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านอย่างสันติในอัฟกานิสถาน ช่วยนำทางให้มีโครงสร้างทางการเมืองที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ดำเนินนโยบายในประเทศและต่างประเทศในทางสายกลางอย่างรอบคอบ ต่อสู้กับการก่อการร้ายทุกรูปแบบ และมีมิตรไมตรีที่ดีต่อประเทศเพื่อนบ้าน
ที่ผ่านมาจีนและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ของอัฟกานิสถาน ได้กดดันให้สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและมนุษยธรรม และไม่ทอดทิ้งอัฟกานิสถาน
ทางด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวในที่ประชุมผ่านทางวิดีโอ โดยเน้นย้ำความจำเป็นในการทำงานร่วมกับกลุ่มตาลิบัน และขอให้ประเทศมหาอำนาจของโลกพิจารณายกเลิกการอายัดทรัพย์สินของอัฟกานิสถานในธนาคารต่างประเทศด้วย
ทั้งนี้ สหรัฐฯ และชาติตะวันตกอื่นๆ รับปากว่าจะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมด้วยงบกว่า 1,200 ล้านดอลลาร์แก่อัฟกานิสถานทันที แต่ประเทศเหล่านี้ยังคงรอดูท่าทีของกลุ่มตาลิบันว่าจะเคารพสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะสิทธิสตรี หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือไม่ ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะกลับไปมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับกลุ่มตาลิบันหรือไม่
กองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลกได้ระบุว่า จะไม่ให้อัฟกานิสถานกู้ยืมเงิน ทำให้โครงการพัฒนาต่างๆ ในประเทศต้องหยุดชะงักลงในขณะนี้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มตาลิบันประกาศชื่อสมาชิกในคณะรัฐบาลรักษาการ 33 คน ซึ่งเป็นผู้ชายทั้งหมด ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์จากทั้งในและต่างประเทศว่าไม่เปิดให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมจริงตามที่กลุ่มตาลิบันเคยรับปากก่อนหน้านี้
นายกรัฐมนตรีอิมราน ข่าน ของปากีสถาน ซึ่งเป็นประเทศที่มีพรมแดนยาวติดกับอัฟกานิสถานระบุในที่ประชุมว่า กลุ่มตาลิบันจะต้องมีโครงสร้างทางการเมืองที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมและเป็นตัวแทนของกลุ่มชาติพันธุ์ทุกกลุ่มซึ่งสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศ กลุ่มตาลิบันยังจะต้องเคารพสิทธิของชาวอัฟกันทุกคนและรับประกันว่า อัฟกานิสถานจะไม่เป็นแหล่งพักพิงของผู้ก่อการร้ายอีกต่อไป
ผู้นำปากีสถานระบุด้วยว่า ประเทศเพื่อนบ้านของอัฟกานิสถานโล่งใจที่การเปลี่ยนขั้วอำนาจในอัฟกานิสถานเกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุการณ์เสียเลือดเนื้อครั้งใหญ่ ไม่มีสงครามกลางเมือง และไม่มีผู้ลี้ภัยเป็นจำนวนมากเดินทางมายังประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้
สื่อรัสเซียรายงานคำพูดของ ปธน. ปูติน ด้วยว่า การเปลี่ยนผ่านอำนาจในอัฟกานิสถานเป็น “ความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก” เนื่องจากแทบไม่มีการเสียเลือดเนื้อ เขาหวังว่า รัฐบาลตาลิบันจะทำตามสัญญาในการสร้างสันติ ทำให้ชีวิตของผู้คนทั่วไปกลับคืนมาเป็นปกติ และสร้างความปลอดภัยแก่ทุกฝ่าย
ทั้งนี้ องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ประกอบด้วยจีน อินเดีย คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน รัสเซีย ปากีสถาน ทาจิกิสถาน และอุซเบกิสถาน โดยมีอัฟกานิสถานเป็นประเทศผู้สังเกตการณ์ อย่างไรก็ตาม อัฟกานิสถานไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้เนื่องจากชาติสมาชิกยังไม่ให้การรับรองรัฐบาลตาลิบัน
เมื่อวันจันทร์ นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า รัฐบาลชั่วคราวของกลุ่มตาลิบันไม่ได้จัดตั้งขึ้นโดยให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมและไม่ได้ให้สตรีมีส่วนร่วม ในทางกลับกัน รัฐบาลชั่วคราวนี้กลับประกอบไปด้วยแกนนำกลุ่มตาลิบันที่เต็มไปด้วยประวัติซึ่งไม่น่าพอใจ ทั้งนี้ สมาชิกของคณะรัฐมนตรีตาลิบันหลายคนติดบัญชีดำของสหรัฐฯ และสหประชาชาติ
อย่างไรก็ตาม นายอะเมอร์ ข่าน มุตตาคิ รัฐมนตรีต่างประเทศของคณะรัฐบาลชั่วคราวตาลิบัน ปฏิเสธคำวิจารณ์ดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นการวิจารณ์ที่มีเจตนาทางการเมือง และอ้างว่ากลุ่มตาลิบันจัดตั้งรัฐบาลที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ เขายังระบุด้วยว่า กลุ่มตาลิบันจะให้ความสำคัญต่อสิทธิมนุษยชนของชาวอัฟกันทั้งหมด และไม่ให้อัฟกานิสถานเป็นแหล่งที่ผู้ก่อการร้ายใช้เพื่อโจมตีประเทศอื่นๆ
รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน รัสเซีย อิหร่าน และปากีสถาน ยังหารือนอกรอบระหว่างการประชุมครั้งนี้ ถึงประเด็นสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน โดยแถลงการณ์ร่วมหลังการประชุมระบุว่า ทั้งสี่ประเทศเน้นย้ำความสำคัญถึงการมีส่วนร่วมของประเทศที่ “ควรมีส่วนรับผิดชอบอย่างสำคัญ” ต่อการฟื้นฟูสังคมและเศรษฐกิจของอัฟกานิสถานในช่วงหลังสงคราม โดยประเทศเหล่านี้ควรให้ความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ และมนุษยธรรมแก่อัฟกานิสถานโดยเร็ว