อังกฤษกล่าวอำลาครั้งสุดท้ายต่อควีนเอลิซาเบธที่ 2

The Imperial State Crown is removed from the coffin during the Committal Service for Queen Elizabeth at St. George's Chapel, at Windsor Castle, Windsor, Sept. 19, 2022.

พระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ในกรุงลอนดอน เสร็จสิ้นลงไปแล้วในวันจันทร์ ท่ามกลางบรรยายการที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าอาลัยของประชาชนทั่วอังกฤษ

งานครั้งนี้เป็นการรวมตัวของแขกมากมายจากต่างประเทศ ทั้งประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี สมาชิกพระราชวงศ์ต่าง ๆ และแขกผู้ทรงเกียรติ ที่เข้าร่วมพระราชพิธีเพื่อกล่าวคำอำลาครั้งสุดท้ายต่ออดีตองค์ประมุขของอังกฤษ ที่ได้ชื่อว่าทรงครองราชย์นานที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ

ก่อนจะเริ่มพิธีในช่วงเช้าวันจันทร์ตามเวลาในกรุงลอนดอน ราชนาวีอังกฤษจัดราชรถปืนใหญ่เพื่อเคลื่อนย้ายหีบพระบรมศพจากเวสต์มินสเตอร์ ฮอลล์ ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานหีบพระบรมศพมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้ามาถวายความเคารพและความอาลัย มายังมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์เพื่อประกอบพระราชพิธีสุดท้ายนี้ โดยมีประชาชนจำนวนมากเฝ้ารออยู่ตลอดสองข้างทางที่ขบวนเคลื่อนผ่าน

The coffin of Queen Elizabeth II is loaded on to a gun carriage pulled by Royal Navy soldiers to go from Westminster Hall for her funeral service in Westminster Abbey in central London, Sept. 19, 2022.

สมาชิกพระราชวงศ์วินด์เซอร์บางพระองค์ ซึ่งรวมถึงสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 พร้อมพระอนุชาและพระขณิษฐา และพระราชโอรสทั้ง 2 พระองค์ ทรงเข้าร่วมเดินกับขบวนเคลื่อนย้ายหีบพระบรมศพซึ่งได้รับการตกแต่งตามพระราชประเพณีและมีพระมหามงกุฏ พร้อมลูกโลกประดับกางเขน และคทากางเขน ซึ่งเป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์แห่งสหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ที่ด้านบนหมอนผ้ากำมะหยี่สีม่วง พร้อมการจัดดอกไม้สวยงาม

เดวิด ฮอยล์ คณบดีแห่งเวสต์มินสเตอร์ คือ ผู้ที่ทำหน้าที่ประธานพระราชพิธีครั้งนี้ และกล่าวว่า ช่วงเวลาหลายทศวรรษที่ควีนเอลิซาเบธทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอย่างไม่ทรงรู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำให้คนทั่วประเทศได้รับรู้ถึง “ความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ต่อหน้าที่ความรับผิดชอบที่พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในฐานะองค์พระราชินีและพระประมุขแห่งเครือจักรภพ”

ฮอยล์ ระบุด้วยว่า มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์คือสถานที่ที่เจ้าหญิงเอลิซาเบธทรงเข้าพิธีเสกสมรสกับเจ้าชายฟิลิป เมื่อปี ค.ศ. 1947 รวมทั้งเป็นที่ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระองค์ในปี ค.ศ. 1953 ด้วย

Britain Royals Funeral

นายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์ ซึ่งเพิ่งได้รับการแต่งตั้งโดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ไม่กี่วันก่อนการสวรรคต เป็นผู้อ่านคำสอนจากพระคัมภีร์ไบเบิลในพระราชพิธีนี้ที่มีผู้เข้าร่วมถึงราว 2,000 คน

รายงานข่าวระบุว่า พระราชปนัดดาสองพระองค์ ได้แก่ เจ้าชายจอร์จและเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ ในเจ้าชายวิลเลียมและแคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ทรงได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมพระราชพิธีนี้ด้วย

ภายหลังการเสร็จสิ้นขั้นตอนต่าง ๆ แล้ว ผู้เข้าร่วมงานยืนไว้อาลัยเป็นเวลา 2 นาที ก่อนที่ สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 และสมาชิกพระราชวงศ์อื่น ๆ จะเสด็จพระราชดำเนินพร้อมหีบพระศพของควีนเอลิซาเบธไปยัง เวลลิงตัน อาร์ช ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายก่อนที่จะมีพิธีฝังพระบรมศพ ข้างหลุมฝังพระศพของเจ้าชายฟิลิป ผู้สิ้นพระชนม์เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้วต่อไป ที่ปราสาทวินด์เซอร์ ซึ่งมีการจัดเป็นพิธีภายใน

State funeral and burial of Queen Elizabeth

ทั้งนี้ ครั้งสุดท้ายที่อังกฤษจัดงานพิธีศพที่รัฐบาลเป็นเจ้าภาพนั้นคือเมื่อเกือบ 60 ปีก่อน โดยเป็นงานของ วินสตัน เชอร์ชิลล์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษผู้นำพาประเทศผ่านพ้นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จนได้รับชัยชนะที่สุด

  • ที่มา: วีโอเอ