สหรัฐฯ ร่วมไว้อาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ในวันพฤหัสบดี โดยผู้นำสหรัฐฯ และนักการเมืองหลายคนต่างร่วมแถลงแสดงความอาลัยในครั้งนี้
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และภริยา จิล ไบเดน มีแถลงการณ์ว่า "ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงยืนหยัดอย่างมั่นคงและทรงเป็นทั้งที่พึ่งพิงและความภาคภูมิใจของชาวอังกฤษหลายยุคสมัย รวมถึงผู้ที่ไม่เคยเห็นประเทศอังกฤษที่ไม่มีพระองค์ครองราชย์มาก่อน" "สิ่งที่พระองค์ได้ฝากไว้จะถูกจารึกลงบนหน้าประวัติศาสตร์ และเป็นหนึ่งในเรื่องราวสำคัญของโลกนี้"
อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา และภริยา มิเชล โอบามา กล่าวยกย่องพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ ทั้งในด้านความเป็นผู้นำ และการทรงงานหนักเพื่อประชาชน
อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และภริยา เมลาเนีย ทรัมป์ กล่าวว่า "ประวัติศาสตร์และการครองราชย์ที่ยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงทำให้อังกฤษมีสันติภาพและความรุ่งเรืองจวบจนทุกวันนี้ ความเป็นผู้นำและพระปรีชาทางการทูตของพระองค์ได้สร้างความก้าวหน้าทางความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ และประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก"
ระหว่างการครองราชย์ 70 ปี พระราชินีนาถเอลิซาเบธทรงทำงานร่วมกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ 14 คน ตั้งแต่ แฮร์รี ทรูแมน จนถึง โจ เบเดน พระองค์ทรงเปิดพระราชวังต้อนรับประธานาธิบดีอเมริกันหลายคน และทรงกล่าวสุนทรพจน์ที่รัฐสภาสหรัฐฯ หลายครั้งด้วยกัน
ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เตรียมผ่านร่างมติยกย่องสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในวันอังคารหน้า ขณะที่ ส.ส.แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ สั่งการให้รัฐสภาสหรัฐฯ ลดธงครึ่งเสาในวันพฤหัสบดี เช่นเดียวกับทำเนียบขาวที่ลดธงลงครึ่งเสาเช่นกัน
ส.ส แนนซี เพโลซี กล่าวว่า "วันนี้ ประชาชนอเมริกันขอร่วมแสดงความเสียใจกับอังกฤษ ในการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระองค์ทรงเป็นเสาหลักของผู้นำบนเวทีโลก และทรงอุทิศพระองค์เพื่อเสรีภาพตลอดการครองราชย์ 70 ปี"
ทางด้าน ชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐฯ มีแถลงการณ์ว่า "สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเป็นผู้นำที่ช่วยนำพาประเทศอังกฤษและทั่วโลกผ่านช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญหลายอย่างตลอดการครองราชย์ 70 ปี ตั้งแต่การคุกคามของระเบิดปรมาณู การล่มสลายของสหภาพโซเวียต การสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต และการระบาดของโรคร้าย"