ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เตรียมส่งคำเตือน “วันสิ้นโลก” (Doomsday) ไปยังรัฐบาลชาติตะวันตกทั้งหลาย ในระหว่างการจัดงานพาเหรดเฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะของรัสเซียเหนือกองทัพนาซีเยอรมันเมื่อปีค.ศ. 1945 หรือ Victory Day จะมาถึงในวันจันทร์หน้า ที่รอยเตอร์ระบุว่า จะมีการแสดงแสนยานุภาพกองทัพรัสเซีย ขณะที่ การรุกรานยูเครนยังเดินหน้าอยู่ต่อไป
รายงานข่าวระบุว่า ปธน.ปูติน มีแผนที่จะขึ้นกล่าวปราศรัยที่จัตุรัสแดง ต่อหน้าขบวนพาเหรดของกองกำลังทหาร รถถัง จรวด และขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยไกลข้ามทวีป ซึ่งเป็นเหมือนการแสดงความท้าทายต่อท่าทีและมาตรการลงโทษต่าง ๆ ที่ชาติตะวันตกดำเนินการต่อรัสเซีย สำหรับการส่งกองทัพเข้ารุกรานยูเครน
กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยด้วยว่า นอกจากขบวนพาเหรดของทหารและยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ แล้ว กองทัพรัสเซียยังมีกำหนดส่งเครื่องบินรบความเร็วเหนือเสียง เครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-160 และเครื่องบินบัญชาการ “วันสิ้นโลก” ขึ้นบินเหนือมหาวิหารเซนต์บาซิล โดยนี่จะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 ที่รัสเซียนำเครื่องบิน “วันสิ้นโลก” ที่ใช้สำหรับนายพลระดับสูงเพื่อขึ้นบัญชาการการรบในกรณีที่เกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้นบินโชว์
ที่ผ่านมา ผู้นำเครมลินวัน 69 ปีย้ำมาตลอดว่า สงครามในยูเครนนั้นเป็นเหมือนเมื่อครั้งที่สหภาพโซเวียตถูกกองทัพนาซีของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ รุกรานเมื่อปี ค.ศ. 1941
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่รัสเซียส่งกองทัพบุกเข้ายูเครน ด้วยคำอ้างว่าเป็น “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ปธน.ปูติน กล่าวไว้ว่า “ความพยายามที่จะเอาใจผู้รุกรานในวันก่อนเกิด ‘มหาสงครามแห่งความรักชาติ’ กลายมาเป็นความผิดพลาดที่นำมาซึ่งความสูญเสียของชีวิตผู้คนของเราอย่างมาก” และว่า “เราจะไม่ยอมทำผิดเยี่ยงนั้นซ้ำสอง เราไม่มีสิทธิ์(จะทำเช่น)นั้น”
ปธน.ปูติน ย้ำมาเสมอว่า สงครามในยูเครนนั้นคือ การต่อสู้เพื่อปกป้องประชาชนในยูเครนที่ใช้ภาษารัสเซียในการสื่อสาร ไม่ให้ถูกพวกนาซีประหัตประหาร และเพื่อป้องกันสิ่งที่ผู้นำรัสเซียเรียกว่าเป็น ภัยคุกคามจากสหรัฐฯ ต่อรัสเซียผ่านการขยายอิทธิพลขององค์การนาโต้
ยูเครนและชาติตะวันตกต่างปฏิเสธคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับลัทธิฟาสซิสต์นี้ว่า เป็นเรื่องไร้สาระ และว่า ปูติน นั้นทำสงครามที่ไม่มีใครยั่วยุเพื่อรุกรานยูเครนเอง
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น สหภาพโซเวียตสูญเสียประชาชนไปถึง 27 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าประเทศใดในโลก และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปธน.ปูติน พร่ำพูดถึงสิ่งที่รัฐบาลมอสโกมองว่า เป็นความพยายามของชาติตะวันตกเพื่อเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของสงครามและทำให้ชัยชนะของรัสเซียนั้นดูด้อยค่าลง
ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ระบุว่า นอกจากการเอาชนะจักรพรรดินโปเลียน โบนาปาร์ท ของฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1812 แล้ว การล้มเยอรมันนาซีได้คือ ชัยนะทางทหารที่ได้รับการยกย่องกล่าวขานมากที่สุดของรัสเซีย แต่การถูกรุนรานจากชาติตะวันตกทั้งสองครั้งนี้ก็เป็นหน้าประวัติศาสตร์ที่มีความอ่อนไหวต่อประเด็นพรมแดนของรัสเซียอย่างมากเช่นกัน
นับตั้งแต่ทำการรุกรานยูเครนมา ประชาชนนับพันคนต้องล้มตายลงและผู้คนอีกเกือบ 10 ล้านคนต้องกลายมาเป็นผู้พลัดถิ่น ทั้งยังทำให้รัสเซียต้องเผชิญกับมาตรการลงโทษอย่างหนักจากรัฐบาลชาติตะวันตก และทำให้เกิดกระแสความกลัวว่า จะเกิดการเผชิญหน้าระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสองมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์ด้วย
หลายฝ่ายคาดว่า ผู้นำรัสเซียจะทำการประกาศพิเศษเกี่ยวกับสงครามในยูเครน ในวันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคมนี้ แต่ ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกเครมลินออกมาปฏิเสธกระแสดังกล่าวเมื่อวันพุธว่า ประเด็นนี้เป็น “เรื่องเหลวไหล”
ทั้งนี้ รอยเตอร์ได้ติดต่อไปยังเครมลินเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ปธน.ปูติน วางแผนจะขึ้นกล่าว ระหว่างการเข้าเป็นประธานพิธีเฉลิมฉลองวัน Victory Day ที่จัตุรัสแดง แต่ไม่ได้รับการตอบรับกลับมา
- ที่มา: รอยเตอร์