ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวโจมตีสหรัฐฯ ว่าใช้มาตรการกดดันต่างๆ ทางเศรษฐกิจ เพื่อรักษาอำนาจทางเศรษฐกิจของตัวเอง
ผู้นำรัสเซียกล่าวที่การประชุม International Economic Forum ที่นครเซนต์สปีเตอร์เบิร์ก ว่าสหรัฐฯ พยายามขยายอำนาจการควบคุมไปทั่วโลก และนำกฎของตนเองมาใช้เหนือกฎหมายระหว่างประเทศ
ประธานาธิบดีปูตินยังได้กล่าวถึงความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับบริษัทเทคโนโลยีจีน 'หัวเหว่ย' ว่าแสดงให้เห็นถึงการแทรกแซงของสหรัฐฯ อย่างโจ่งแจ้งในตลาดเทคโนโลยีโลก ซึ่งจะนำไปสู่ "สงครามเทคโนโลยี" ครั้งแรกในยุคดิจิตัล
นอกจากนี้ ปธน.ปูติน ยังได้ยกตัวอย่างความพยายามของสหรัฐฯ ในการขัดขวางโครงการก่อสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติ Nord Stream 2 จากรัสเซียไปยังเยอรมนีและส่วนอื่นๆ ของยุโรป ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต้องการของสหรัฐฯ ที่จะหาประโยชน์สู่ตนเองแต่ฝ่ายเดียว
ทางด้าน ปธน.จีน สี จิ้นผิง ซึ่งนั่งอยู่ติดกับ ปธน.ปูติน ในการประชุมครั้งนี้ กล่าวว่า รัสเซียกับจีนจะร่วมมือกันมากขึ้นในด้านพลังงานและเศรษฐกิจ ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับนโยบาย "Russia Pivot" ของรัฐบาลกรุงมอสโก
เวลานี้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง อยู่ระหว่างเดินทางเยือนรัสเซียเป็นเวลาสามวัน โดยมีเป้าหมายเน้นย้ำความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ในโอกาสครบรอบ 70 ปีความสัมพันธ์จีนกับรัสเซีย ท่ามกลางความขัดแย้งกับสหรัฐฯ ที่ขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ
ปธน.สี กล่าวถึงความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับ ปธน.ปูตินว่า ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ตนได้พบกับ ปธน.ปูติน เกือบ 30 ครั้ง รัสเซียถือเป็นประเทศที่ตนมาเยือนมากที่สุด และ ปธน.ปูติน คือเพื่อนที่ดีที่สุดเช่นกัน
การพบหารือครั้งล่าสุดระหว่างผู้นำจีนกับรัสเซีย เกิดขึ้นในขณะที่ทั้งสองประเทศกำลังมีความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐฯ โดยรัสเซียนั้นถูกสหรัฐฯ ใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจมาตั้งแต่ 5 ปีก่อน ขณะที่จีนก็กำลังมีสงครามการค้าและภาษีกับรัฐบาลกรุงวอชิงตัน
นักวิเคราะห์เชื่อว่า ปธน.สี และ ปธน.ปูติน ต่างมีเคมีที่ตรงกัน และความขัดแย้งที่ทั้งคู่มีอยู่กับสหรัฐฯ ก็ยิ่งทำให้ทั้งสองคนมีความใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น