ในวันพฤหัสบดี ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ลงนามในกฎหมายที่กำหนดให้ต่างชาติต้องจ่ายค่าก๊าซธรรมชาติของรัสเซียเป็นเงินรูเบิลเท่านั้น โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้เป็นต้นไป
ประธานาธิบดีปูติน กล่าวผ่านทางโทรทัศน์หลังลงนามในกฎหมายดังกล่าว ระบุว่า ประเทศใดก็ตามที่ปฏิเสธการใช้เงินรูเบิลจะถูกยกเลิกสัญญาซื้อขายเชื้อเพลิงกับรัสเซียทันที
ปูตินกล่าวว่า "ผู้ที่จะซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียต้องเปิดบัญชีเงินรูเบิลกับธนาคารของรัสเซีย และใช้บัญชีดังกล่าวเท่านั้นในการจ่ายค่าก๊าซที่ส่งไปจากรัสเซีย เริ่มตั้งแต่วันศุกร์นี้เป็นต้นไป"
ผู้นำรัสเซียเน้นย้ำว่า "หากไม่มีการจ่ายด้วยเงินรูเบิล รัสเซียจะถือว่าผู้ซื้อได้ผิดนัดชำระหนี้ และจะมีผลต่อเนื่องตามมา" ซึ่งหมายถึงการยกเลิกสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติกับรัสเซีย
ประธานาธิบดีปูตินยังบอกด้วยว่า " ไม่มีใครขายสินค้าให้รัสเซียแบบฟรี ๆ และรัสเซียก็จะไม่บริจาคอะไรเพื่อการกุศลเช่นกัน"
แม้คำแถลงของผู้นำรัสเซียครั้งนี้เต็มไปด้วยถ้อยคำที่แข็งกร้าว แต่นายกรัฐมนตรีอิตาลี มาริโอ ดรากี และนายกรัฐมนตรีเยอรมนี โอลาฟ โชลซ์ กล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับประธานาธิบดีปูตินแล้วและได้รับคำตอบว่าสัญญาซื้อขายที่มีอยู่จะยังคงถูกใช้ต่อไป
ทั้งนี้ ยุโรปนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียในสัดส่วนราว 1 ใน 3 ของปริมาณที่ใช้ทั้งหมดในยุโรป ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลชาติตะวันตกและบริษัทพลังงานต่าง ๆ ระบุว่า การที่รัสเซียบังคับให้จ่ายค่าก๊าซด้วยเงินรูเบิลนั้นถือเป็นการละเมิดสัญญาที่ทำไว้ก่อนหน้านั้น เนื่องจากสัญญาระบุไว้ว่าผู้ซื้อสามารถจ่ายด้วยเงินยูโรหรือเงินดอลลาร์ได้
กฎหมายของรัสเซียฉบับนี้มุ่งเป้าไปที่สหรัฐฯ อังกฤษ และประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ซึ่งปูตินระบุว่า "ไม่เป็นมิตร" ต่อรัสเซีย หลังจากที่รัสเซียต้องเผชิญมาตรการลงโทษจากบรรดาชาติตะวันตกหลังจากเริ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์
- ข้อมูลบางส่วนจากรอยเตอร์