รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ กล่าวในวันพุธว่า สหรัฐฯ ได้เตรียมพร้อมแล้วหากจำเป็นต้องใช้มาตรการทางทหารเพื่อยุติความวุ่นวายทางการเมืองในเวเนซูเอลา
รมต.พอมเพโอ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ Fox Business Network ว่า "หากจำเป็นต้องทำ สหรัฐฯ ก็พร้อมจะใช้กำลังทหารกับเวเนซูเอลา"
อย่างไรก็ตาม รมต.พอมเพโอ เน้นย้ำว่า สหรัฐฯ ยังคงต้องการให้มีการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติในเวเนซูเอลามากกว่า คือจากประธานาธิบดีนิโคลาส์ มาดูโร ไปเป็นนายฮวน กวัยโด้ ผู้นำฝ่ายค้านของเวเนซูเอลาที่สหรัฐฯ และ 50 ประเทศทั่วโลก ให้การยอมรับว่าเป็นประธานาธิบดีเฉพาะกาลของเวเนซูเอลา
การส่งสัญญาณเรื่องมาตรการทางทหารของ รมต.พอมเพโอ ได้ก่อให้เกิดการตอบโต้อย่างทันควันจากรัสเซีย ซึ่งให้การสนับสนุนนายมาดูโร
รัฐบาลกรุงมอสโก กล่าวว่า รมต.ต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ ได้เตือนไปยัง รมต.พอมเพโอ ทางโทรศัพท์แล้ว โดยบอกว่าหากสหรัฐฯ ใช้แนวทางที่ก้าวร้าวกับเวเนซูเอลา จะมีผลร้ายแรงที่สุดตามมา
รมต.ลาฟรอฟ กล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ กำลังแทรกแซงกิจการภายในของเวเนซูเอลา ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า รมต.พอมเพโอ ได้เร่งเร้าให้รัสเซียยุติการสนับสนุนรัฐบาล ปธน.มาดูโร เพราะเป็นการสั่นคลอนความมั่นคงในภูมิภาคนี้ และจะกระทบความสัมพันธ์ในวงกว้างระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย
เมื่อวานนี้ รมต.พอมเพโอ ให้สัมภาษณ์ว่า ปธน.มาดูโร ได้เตรียมที่จะหนีออกจากเวเนซูเอลาไปยังคิวบา ในวันอังคาร แต่ทางรัสเซียได้โน้มน้าวให้นายมาดูโรอยู่ในประเทศต่อไปเพื่อต่อสู้กับกลุ่มที่พยายามล้มล้างรัฐบาลนายมาดูโรในขณะนี้
แต่ทางนายมาดูโรและทางการรัสเซีย ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ โดยระบุว่าเป็น ส่วนหนึ่งของ "สงครามข่าวสาร" ของสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน นายฮวน กวัยโด้ ได้เรียกร้องให้เกิดการเดินขบวนครั้งใหญ่ในวันแรงงานสากล 1 พ.ค. เพื่อกดดันให้นายมาดูโรสละตำแหน่ง และได้เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษาความสงบของเวเนซูเอลา
เมื่อวันอังคาร ภาพจากรายงานโทรทัศน์แสดงให้เห็นยานยนต์หุ้มเกราะของกองกำลังทหารเวเนซุเอลา ขับพุ่งชนและทับผู้ประท้วง ในเหตุการณ์ลุกฮือประท้วงของประชาชนใจกลางกรุงการากัส
ประชาชนหลายพันคนเดินขบวนประท้วงตามท้องถนนหลังการประกาศของนายฮวน กวัยโด ที่ระบุว่าประชาชนเดินมาถึงจุดที่ "เดินกลับหลังไม่ได้" ในความพยายามล้มล้างอำนาจ ประธานาธิบดีนิโคลาส์ มาดูโร
ทหารของประธานาธิบดีมาดูโร พยายามควบคุมสถานการณ์ด้วยการด้วยการฉีดน้ำแรงดันสูงและแก๊สน้ำตาเข้าใส่ฝูงชนที่ปาก้อนหินตอบโต้
รัฐบาลเวเนซูเอลาประกาศว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็น "ความพยายามทำรัฐประหาร" โดยฝ่ายตรงข้ามกับประธานาธิบดีมาดูโร ซึ่งรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว