Your browser doesn’t support HTML5
รัฐบาลสหรัฐฯ ส่งสัญญาณขู่บังคับใช้มาตรการจำกัดใหม่ๆ ในการออกวีซ่า ให้กับบริษัทสัญชาติจีน เช่น ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี หัวเหว่ย จากกรณีมีส่วนร่วมกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในจีน
ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวในวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า บริษัทโทรคมนาโคมทั่วโลก “ควรพิจารณาตนเองให้ดี” หากมีการทำธุรกิจกับ หัวเหว่ย เพราะบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่แห่งนี้ “เป็นผู้ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน”
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในระหว่างการแถลงข่าวด้วยว่า กระทรวงการต่างประเทศ “จะออกคำสั่งจำกัดการออกวีซ่า ให้กับพนักงานบางรายของบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีน เช่น หัวเหว่ย ที่เป็นผู้จัดหาวัสดุและส่วนประกอบให้กับ ระบบการปกครองหรือรัฐบาล ที่ทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่ทั่วโลก”
เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่อังกฤษประกาศถอดอุปกรณ์ต่างๆ ของ หัวเหว่ย ออกโครงการพัฒนาเทคโนโลยี 5G ภายในปี ค.ศ. 2027 รมต.พอมเพโอ กล่าวว่า การดำเนินการเช่นนั้น “ยิ่งเร็ว ก็ยิ่งดี”
ทั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์อีกฉบับที่กล่าวหาว่า หัวเหว่ย ทำตนเป็น “แขนขาให้กระบวนการสอดส่องเฝ้าระวังของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในการจับผิดผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์จีน พร้อมๆ กับช่วยสร้างค่ายกักกันขนาดใหญ่ในมณฑลซินเจียง” ด้วย
อย่างไรก็ดี หัวเหว่ย ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาว่า บริษัททำหน้าที่เป็นสายลับให้กับรัฐบาลจีน และว่า สหรัฐฯ ต้องการสกัดการเติบโตของบริษัท เพราะธุรกิจอเมริกันไม่สามารถนำเสนอเทคโนโลยีแบบเดียวกับที่ หัวเหว่ย มีแต่ในราคาที่ดีกว่าได้