Your browser doesn’t support HTML5
รายงานการศึกษาพบว่า นักศึกษาต่างชาติในอเมริกามักคัดลอกรายงานหรือนำผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน หรือ Plagiarism มากกว่านักศึกษาอเมริกัน เนื่องจากเหตุผลด้านภาษาและวัฒนธรรม และมักถูกจับได้มากกว่านักศึกษาอเมริกันด้วย
ปัญหาการคัดลอกผลงานผู้อื่นในมหาวิทยาลัยอเมริกัน
การคัดลอกรายงานด้านวิชาการหรือนำผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน หรือ Plagiarism เกิดขึ้นแพร่หลายในมหาวิทยาลัยของสหรัฐฯ มานานแล้ว แต่การที่จำนวนนักศึกษาต่างชาติเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ ยิ่งทำให้ปัญหาดังกล่าวรุนแรงและขยายวงกว้างมากขึ้น
ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยหลายแห่ง พบว่า นักเรียนต่างชาติถูกพบว่าคัดลอกผลงานผู้อื่นมากกว่านักเรียนอเมริกันราว 2 เท่า และส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับวิธีหลีกเลี่ยงการกระทำผิดกฎของมหาวิทยาลัยในกรณี Plagiarism
ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาเชื่อว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักศึกษาต่างชาติประพฤติผิดในเรื่องนี้มี 2 ส่วน คือภาษา และวัฒนธรรม
ศาสตราจารย์ David Mills แห่ง University of Virginia ระบุว่า การที่นักเรียนต่างชาตินิยมคัดลอกผลงานผู้อื่น โดยเฉพาะรายงานหรืองานวิชาการต่างๆ นั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความไม่เชี่ยวชาญในภาษาอังกฤษ ทำให้คิดตื้นๆ ด้วยการใช้ทางลัด
อีกประการหนึ่งคือ ความแตกต่างทางวัฒนธรรม เนื่องจากนักศึกษาต่างชาติเหล่านั้นอาจมาจากสังคมที่มองว่า ผลงานของใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นงานเขียนหรือแนวคิด ถือเป็นของส่วนรวมที่สามารถแบ่งปันกันได้ และไม่ได้ให้ความสำคัญกับการให้เครดิตหรือการอ้างอิงถึงตัวเจ้าของผลงานนั้นๆ
ความเข้าใจของนักเรียนต่างชาติ
รายงานการศึกษาพบว่า นักศึกษาจากจีนและอินเดีย ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันมากกว่าครึ่งหนึ่งของนักศึกษาต่างชาติในสหรัฐฯ นั้น จำนวนมากยังไม่มีความเข้าใจถึงคำจำกัดความของ Plagiarism และไม่มีความรู้ว่าจะหลีกเลี่ยงการใช้ผลงานหรือแนวคิดของผู้อื่นอย่างไร
ด้วยเหตุนี้ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจึงมีนักศึกษาจีนจำนวนมากขึ้นที่ถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยเพราะปัญหาการใช้ผลงานของผู้อื่น
ในทางกลับกัน ดูเหมือนนักศึกษาอเมริกันที่คัดลอกผลงานของผู้อื่นเช่นกันนั้น มักจะสามารถหลีกเลี่ยงการถูกจับหรือถูกลงโทษได้มากกว่า เนื่องจากมีความเข้าใจในแนวคิด Plagiarism นี้เป็นอย่างดี
นอกจากประเด็นเรื่องภาษาและวัฒนธรรมแล้ว ยังมีการระบุถึงสาเหตุอื่นๆ ที่นำไปสู่การคัดลอกผลงานของผู้อื่นด้วย เช่น การที่โรงเรียนในบางประเทศมุ่งเน้นการท่องจำมากว่าการให้นักเรียนได้คิดเอง ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างความสามารถของนักเรียนกับมาตรฐานของมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ หรือการที่สถานศึกษาในประเทศอื่นอาจไม่มีบทลงโทษสำหรับการคัดลอกผลงานผู้อื่น ทำให้นักเรียนไม่เห็นว่าเป็นความผิดร้ายแรง ตลอดจนความเครียดของแต่ละวิชาที่เรียนที่อาจมีส่วนให้เกิดการคัดลอกผลงานของผู้อื่นในระดับที่ต่างกันไป
วิธีที่มหาวิทยาลัยนำมาใช้จัดการ
มหาวิทยาลัยต่างๆ ในสหรัฐฯ ต่างพยายามหามาตรการมาจัดการกับปัญหานี้ โดยเฉพาะการเพิ่มหลักสูตรสร้างความเข้าใจในเรื่องการคัดลอกผลงานผู้อื่น ให้กับนักศึกษาต่างชาติ เช่น มหาวิทยาลัย Columbia และ Western Kentucky ที่บังคับให้นักศึกษาต่างชาติต้องผ่านหลักสูตร Plagiarism
อย่างไรก็ตาม คุณ Jayati Chaudhuri นักการศึกษาจาก California State University ชี้ว่า นักเรียนต่างชาติที่ต้องการจะเรียนหลักสูตรที่ว่านี้ ส่วนใหญ่เป็นพวกที่ได้เกรดไม่ดีเพราะถูกตัดคะแนนการทำรายงาน หรือถูกจับได้ว่าคัดลอกผลงานของผู้อื่นและจะต้องถูกลงโทษแล้วเท่านั้น
(Nick Dugan รายงาน / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)