Your browser doesn’t support HTML5
สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยที่รุนเเรงมากขึ้นกำลังสร้างความกังวลต่อแผนการเปิดประเทศโดยรวม โดยนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เรียกประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ในวันศุกร์นี้ และอาจออกมาตรการควบคุมโคโรนาไวรัสให้เคร่งครัดมากขึ้น
แต่สำหรับ โครงการนำร่องเปิดการท่องเที่ยวของประเทศไทย ‘ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์’ ยังคงดำเนินต่อไป ณ ขณะนี้
หลังจากผ่านมาตรการที่เคร่งครัด นักท่องเที่ยวจากนานาประเทศเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว 2,244 คน ในช่วงระยะเวลา 8 วันแรก ทั้งนี้ เมื่อวันพุธที่ 7 กรกรฏาคม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตได้รายงานว่าตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิดรายแรกจากโครงการดังกล่าวแล้ว
โดยพบเชื้อในการตรวจโควิดครั้งที่ 1 ซึ่งเริ่มเมื่อนักท่องเที่ยวทุกคนเดินทางมาถึงสนามบินภูเก็ต ในกรณีนี้ นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวเดินทางเข้าภูเก็ตช่วงค่ำของวันที่ 6 กรกรฏาคม อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กล่าวว่าสถานการณ์การระบาดของโควิดในภูเก็ตอยู่ในขั้นที่ยังบริหารจัดการได้
ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ตั้งแต่เปิดเกาะ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 31 คน ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่จะส่งผลกระทบต่อโครงการพอสมควร นอกจากนี้ ประชากรในจังหวัดภูเก็ตยังได้รับวัคซีนโดสแรก แล้วมากกว่า 85% อีกด้วย
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยุทธศักดิ์ สุภสร ให้สัมภาษณ์พิเศษกับวีโอเอไทยถึงมาตรการการควบคุมโควิด ของโครงการ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ว่า:
“เรามีแผน Risk Management เพื่อเผชิญเหตุที่มันอาจจะเกิดขึ้น เราไม่รู้หรอกครับว่าสถาการณ์มันจะเป็นยังไง เรารับคนต่างชาติเข้ามา แม้จะมาจากประเทศที่เป็น low-risk (ความเสี่ยงต่ำ) ก็แล้วแต่ แต่เราก็ต้องพยาม เรากำหนดไว้ว่าถ้ามีผู้ติดเชื้อต่อวันประมาณ 12 คน หรือ 90 คนต่อสัปดาห์ปั๊บ เราอาจจะต้องพิจารณาลดกิจกรรม หรือการเคลื่อนย้ายคนเพื่อความปลอดภัย ซึ่งในส่วนตรงนี้เนี่ย ทั้งโรงพยาบาลก็เตรียมความพร้อม ในแง่ของการรักษาพยาบาล ภูเก็ตนี่ค่อนข้างพร้อม ทั้งโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน และขณะเดียวกัน รัฐบาลเองก็สั่งให้สต็อก เพิ่มยา in case ถ้าในกรณีที่มีปัญหาขึ้นมาครับ”
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยย้ำว่า สิ่งที่สำคัญสุดในตอนนี้ คือ การควบคุมการเข้าออกของคนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต “ทุกวันนี้ก็มีคนไทยเข้าออกครับ เช่น มาจากพังงา มาจากกระบี่ เข้าไปภูเก็ต ลงมาส่งของจากกรุงเทพ เราก็คุม เรามีด่านทางบกที่เดียว คือ ท่าฉัตรไชยที่มีความเข้มงวดมาก ทางอากาศก็ตรวจเอกสารหมดครับ ส่วนคนไทยที่จะเข้าภูเก็ตก็ต้องฉีดวัคซีน หรือมีผลตรวจ ทางน้ำ เราก็จำกัดว่านักท่องเที่ยวออกไปได้กี่แห่ง ตรงนี้เรามีความพร้อมมากครับ”
ทางด้านผู้ประกอบการในพื้นอย่าง พงศกร ลัชชาภิรมย์ ผู้จัดการโรงแรม Patong Bay Hill บอกว่า ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เป็นความหวังในการฟื้นฟูรายได้ที่สำคัญต่อคนในพื้นที่มาก เขาทำทุกวิถีเพื่อให้โรงแรมรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ รวมทั้งส่งเอกสารต่างๆเพื่อให้ได้เครื่องหมาย SHA+ มาตราฐานที่รัฐกำหนดให้พนักงานในโรงแรมต้องได้รับวีคซีนเกินกว่า 70% ขณะนี้ โรงแรมกว่า 400 แห่งในภูเก็ตได้รับ SHA+ แล้ว
โรงแรมของ พงศกร มีคนยอดจองประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ผู้ประกอบการรายนี้แสดงความเห็นกับ วีโอเอ ว่า:
“ภูเก็ตผ่านอะไรมามากนะครับ ตั้งแต่โควิดรอบที่ 1 2 และ 3 เราอยู่กับนักท่องเที่ยวที่ติดเป็นพันๆคนนะครับจากช่วงที่ 1...สำหรับมาตรการ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ผมมั่นใจนะครับสำหรับในพื้นที่ของภูเก็ตเอง ถ้าทุกคนยังดำเนินการตามกรอบระเบียบ ยังไงก็ควบคุมการระบาดได้ครับ...ไม่รู้สึกวิตกกังวลครับ ถึงแม้เราจะพบว่ามีนักท่องเที่ยวหนึ่งคนครับติดเชื้อ เขาก็ได้รับการกักตัว รักษาตัว quarantine ไปเป็นปกติครับ”
เมื่อสอบถามไปยังผู้ร่วมโครงการดังกล่าวถึงสถานการณ์โควิด เกเบรียล เพียรซ์ ที่มาถึงภูเก็ตเมื่อต้นเดือนจาก กรุงวอชิงตัน เมืองหลวงของสหรัฐฯ อธิบายให้วีโอเอฟังว่า เขาทำอาชีพเป็นผู้อำนวยการของโรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่งในประเทศไทย
เขาเลือกจะมาภูเก็ตแทนที่จะไปกักตัวในกรุงเทพ เพราะ “ผมฉีดวัคซีนมาแล้ว มันไม่มีอะไรที่ทำให้ผมต้องเป็นกังวล เคสโควิดในภูเก็ตก็มีแค่ไม่กี่ราย เมื่อเทียบกับที่อื่นในประเทศไทยแล้ว มันเป็นอะไรที่เล็กน้อยมาก”
ส่วนนักท่องเที่ยวจากสวีเดน จอห์นนี แฮมเมอร์แบรี่ ที่เตรียมจะเดินทางมาถึงภูเก็ตในช่วงสิ้นเดือนนี้ พูดถึงมาตราการการตรวจโควิดทั้ง 3 ครั้งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการอยู่ภูเก็ตเป็นเวลา 2 สัปดาห์ว่า:
“คนบนโลกโชเชียลต่อว่าประเทศไทยว่าต้องการหาเงินเพิ่มจากชาวต่างชาติ แต่ผมไม่คิดแบบนั้นนะ ผมเองก็ไม่ใช่คนร่ำรวย แต่ก็จะยอมจ่ายเงินค่าตรวจเพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าตัวเองและคนอื่นปลอดภัย จุดประสงค์หลัก คือ การป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด”
เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวผู้นี้ ประธานสมาคมโรงแรมภูเก็ต แอนโธนี ลาร์ก เข้าใจถึงความจำเป็นเรื่องกฎเกณฑ์ที่รัดกุม เขาบอกกับวีโอเอว่า:
“ประเทศไทยพยามมากที่จะเปิดภูเก็ตให้ปลอดภัย ผู้ประกอบการในสมาคมของเขากว่า 80 โรงแรมถือว่า โครงการ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์นั้นประสบความสำเร็จ ขณะนี้ เวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ เขาบอกว่ายอดการจองห้องพักตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 10 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์สำหรับโรงแรมส่วนใหญ่เพราะโครงการเพิ่งเริ่ม เขาคาดว่ายอดการจองห้องจะเพิ่มขึ้นเป็น 20 ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ในเดือนกันยายนและเดือนตุลาคม จากนั้นก็อาจขึ้นมาเป็น 30 ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ในช่วงปลายปี”
ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเตรียมที่จะเดินหน้าเปิดพื้นที่ต่างๆในเมืองไทยเพิ่มขึ้น โดย วันพุธหน้า โปรแกรม สมุย+ จะเริ่มขึ้น จากนั้นในต้นเดือนกันยายน ก็จะมีการเปิดเกาะต่างๆในจังหวัดกระบี่ การเปิดอำเภอเมืองในเชียงใหม่ และ พื้นที่ต่างๆในจังหวัดชลบุรี ส่วนกรุงเทพนั้นมีกำหนดการว่าเปิดเมืองในวันที่ 1 ตุลาคม หากไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน หลังการประชุมของนายกรัฐมนตรีในวันศุกร์นี้
(รายงานโดย จณิน ภักดีธรรม วีโอเอ ไทย)