Your browser doesn’t support HTML5
นักวิทยาศาสตร์ทีมนี้ได้พัฒนาอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ใช้เสียบเข้ากับสายแจ็คเสียงของโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนรุ่นใดก็ได้ แล้วมันจะกลายเป็นอุปกรณ์ตรวจวินิจฉัยโรคแบบพกพาได้ทันที
คุณ Sam Sia วิศวกรชีวการแพทย์แห่งมหาวิทยาลัย Columbia ใน New York ผู้คิดค้นกล่าวว่าอุปกรณ์นี้จะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือเท่านั้น และสามารถตรวจหาตัวบ่งชี้ทางชีวภาพหรือ biological markers ของโรคต่อต่อทางเพศสัมพันธ์สองโรคได้
เขากล่าวว่าอุปกรณ์ตรวจโรคพกพานี้สามารถตรวจหาตัวบ่งชี้ทางชีวภาพได้ทีเดียวสามชนิดด้วยกัน ตัวบ่งชี้ทางชีวภาพตัวแรกช่วยตรวจหาเชื้อไวรัสเอชไอวี ส่วนตัวบ่งชี้ทางชีวภาพอีกสองตัวจะช่วยตรวจหาเชื้อซิฟิลิส อุปกรณ์สามารถแจ้งผลการตรวจได้ภายใน 15 นาทีและจะบันทึกผลการตรวจที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือในข้อมูลทางสุขภาพส่วนตัวของผู้ป่วยในฐานจัดเก็บข้อมูลแบบไร้สายที่เรียกว่า cloud
การจัดเก็บข้อมูลในฐานข้อมูลแบบไร้สายจะช่วยให้เเพทย์เข้าถึงข้อมูลของการวินิจฉัยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้สะดวก การเข้ารับการบำบัดการติดเชื้อเอดส์และเชื้อซิฟิลิสอย่างทันการณ์จะช่วยหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคร้ายทั้งสองอย่างนี้ได้
ทีมนักวิจัยชี้ว่าสารเคมีที่จำเป็นในการตรวจเลือดเพื่อยืนยันการติดเชื้อจะถูกบรรจุเอาไว้ในกล่องพลาสติกที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว ทีมนักวิจัยได้ทดสอบอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อเอชไอวีและเชื้อซิฟิลิสแบบพกพานี้ทางคลีนิคแล้วในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ชาวระวันดาจำนวน 96 คนที่เสี่ยงต่อการส่งต่อเชื้อแก่ทารกในครรภ์
ผลการทดสอบพบว่าอุปกรณ์ตรวจเลือดแบบพกพานี้ทำงานได้ผลดีเท่ากับการตรวจเลือดที่ใช้เป็นประจำในห้องแล็ปเพื่อตรวจหาการติดเชื้อโรคชนิดต่างๆ
ค่าใช้จ่ายต่อชิ้นอุปกรณ์และสารเคมีอยู่ที่ประมาณ 35 ดอลล่าร์สหรัฐกับห้าสิบเซ็นต์หรือประมาณหนึ่งพันกว่าบาทไทย ซึ่งถือว่าถูกมาเมื่อเทียบกับค่าอุปกรณ์ตรวจเลือดแบบที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันตามห้องแลป โรงพยาบาลหรือคลีนิค ซึ่งมีราคาสูงถึง 18,000 ดอลล่าร์สหรัฐหรือที่มากกว่า 570,000 บาทไทย
นอกจากนี้ การใช้งานอุปกรณ์นี้ก็ง่ายมาก ทีมนักวิจัยชี้ว่าการอบรมเจ้าหน้าที่สุขภาพชาวระวันดาให้ใช้อุปกรณ์ตวรจเอชไอวีและซิฟิลิสแบบพกพานี้กินเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น
คุณ Sia ผู้คิดค้นกล่าวว่าอุปกรณ์ตรวจเอชไอวีและซิฟิลิสแบบพกพาจะช่วยให้การตรวจเลือดด้วยสมาร์ทโฟนมีราคาถูกลงและสามารถนำไปใช้ในประเทศกำลังพัฒนาที่ขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์นี้ได้ทั่วโลก
เขากล่าวว่าในประเทศกำลังพัฒนา เจ้าหน้าที่ดูแลสุขภาพสามารถนำอุปกรณ์ตรวจเลือดแบบพกพานี้ไปใช้งานได้ทั้งคลีนิคที่ขาดแคลนกระแสไฟฟ้าหรือใช้ในการตรวจนอกสถานในชุมชนที่อยู่ห่างไกล