ฟิลิปปินส์กล่าวหาจีนว่า ทำการรุกล้ำน่านน้ำของตนในวันพฤหัสบดี หลังเรือของกองทัพของสองประเทศเพิ่งเผชิญหน้ากันที่สันดอนซึ่งเป็นจุดพิพาทจุดหนึ่งในทะเลจีนใต้เมื่อต้นสัปดาห์ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ระบุว่า คำกล่าวอ้างของกองทัพจีนที่ว่า เรือรบฟิลิปปินส์แล่นเข้าสู่น่านน้ำใกล้กับสันดอน Scarborough Shoal “โดยผิดกฎหมาย” นั้น “ไม่ได้มีมูลฐานทางกฎหมายใด ๆ และ(เป็นการกระทำที่)มุ่งยกระดับความตึงเครียด” ในเส้นทางทางน้ำที่เป็นจุดพิพาทกันอยู่เท่านั้น
แถลงการณ์ของกระทรวงฯ มีเนื้อหาว่า “เป็นจีนนั่นแหล่ะที่รุกล้ำเข้ามาในน่านน้ำฟิลิปปินส์”
ทั้งสองประเทศต่างอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่สันดอน Scarborough Shoal แต่ก็ไม่เคยมีฝ่ายใดประกาศอธิปไตยของตนเหนือบริเวณดังกล่าว ขณะที่ สันดอนแห่งนี้ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของกรุงปักกิ่งนับตั้งแต่จีนยึดมาจากฟิลิปปินส์ในปี ค.ศ. 2012
กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์กล่าวด้วยว่า สันดอนดังกล่าว ซึ่งมีชื่อเรียกในภาษาตากาล็อกว่า “Bajo de Masinloc” นั้นอยู่ภายในพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะ (exclusive economic zone) ของตนและฟิลิปปินส์ก็มีสิทธิอธิปไตยและอำนาจทางกฎหมายเหนือบริเวณนี้ด้วย
สันดอนที่ว่านี้ที่ตั้งอยู่ห่างจากฟิลิปปินส์เป็นระยะทางราว 200 กิโลเมตร เป็นส่วนหนึ่งของคำกล่าวอ้างที่กรุงมะนิลายื่นต่อศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ซึ่งมีคำพิพากษาออกมาในปี 2016 ว่า คำกล่าวอ้างสิทธิ์ของจีนว่าพื้นที่ 90% ของทะเลจีนใต้เป็นของตนนั้น ไม่มีมูลทางกฎหมายระหว่างประเทศ แต่จีนก็ปฏิเสธที่จะยอมรับคำพิพากษานี้
ขณะเดียวกัน ทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ระบุในวันพฤหัสบดีว่า ประเด็นว่าด้วยทะเลจีนใต้นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการหารือในระดับทวิภาคีระหว่างนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ แห่งญี่ปุ่นและประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ที่มีกำหนดจะจัดขึ้นในวันศุกร์
นายกฯ ญี่ปุ่นจะเดินทางถึงกรุงมะนิลาในวันศุกร์นี้ เพื่อเยือนฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการเป็นเวลา 2 วัน
- ที่มา: รอยเตอร์