Your browser doesn’t support HTML5
บริษัทเวชภัณฑ์ ไฟเซอร์ (Pfizer) ประกาศปรับตัวเลขคาดการณ์ยอดขายในปีนี้ของวัคซีนโควิด-19 ที่ร่วมผลิตกับบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ ไบโอเอนเท็ค (BioNTech) จากเยอรมนี ขึ้นอีก 29 เปอร์เซ็นต์ เป็น 33,500 ล้านดอลลาร์ หลังพบว่า นานาประเทศพยายามเร่งสะสมวัคซีนเพื่อใช้แจกจ่ายให้กับประชาชนของตน
สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า ไฟเซอร์ ตั้งความหวังไว้ว่า ทางบริษัทจะได้รับการอนุมัติให้ใช้วัคซีนบูสเตอร์ เพื่อกระตุ้นแอนติบอดี ภายในต้นเดือนสิงหาคมนี้แล้ว พร้อมย้ำว่า วัคซีนเข็มที่ 3 ของตนนั้นน่าจะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้คนเพื่อเสริมสร้างการป้องกันตนเองจากการระบาดระลอกใหม่ในหลายประเทศ
ทั้ง บริษัทแห่งนี้เปิดเผยว่า ข้อมูลเบื้องต้นชุดใหม่แสดงให้เห็นว่า วัคซีนเข็มที่ 3 ของตนช่วยสร้างแอนติบอดีที่มีประสิทธิภาพทำให้ไวรัสหมดฤทธิ์ในผู้รับวัคซีนวัยผู้ใหญ่ได้ถึงกว่า 11 เท่า และในผู้รับวัคซีนวัยเด็กได้กว่า 5 เท่า เมื่อเทียบกับการรับวัคซีนเพียง 2 โดส
ในเวลานี้ ไฟเซอร์ เป็นผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับอนุมัติให้ใช้งานได้ในสหรัฐฯ ยุโรป และอีกหลายภูมิภาคทั่วโลก ทั้งยังได้รับออเดอร์ใหม่ๆ ต่อเนื่อง ขณะที่คู่แข่ง เช่น บริษัทโมเดอร์นา (Moderna) ไม่สามารถเร่งกระบวนการผลิตได้เร็วเท่า และบริษัทแอสตราเซเนกา และบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน มีปัญหาทั้งด้านการผลิตและข้อกังวลด้านความปลอดภัยของตัวยาอยู่
รายงานข่าวระบุว่า การปรับตัวเลขคาดการณ์ยอดขายในปีนี้ของไฟเซอร์อ้างอิงข้อตกลงสั่งซื้อเพิ่มเติมที่มีจำนวนถึง 2,100 ล้านเข็ม ขณะที่ทางบริษัทอาจทำการปรับตัวเลขอีกครั้ง ถ้ามีการลงนามข้อตกลงใหม่ๆ หลังจากนี้
นับตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ไฟเซอร์ นำส่งวัคซีนโควิด-19 ของตนออกไปแล้วถึง 1,000 ล้านโดส และบริษัทตั้งเป้าการผลิตในปีนี้ไว้ที่ราว 3,000 ล้านโดส
และในเดือนหน้า ไฟเซอร์ และ ไบโอเอนเท็ค มีแผนที่จะทำการทดสอบวัคซีนใหม่ที่ได้รับการพัฒนามาโดยเฉพาะสำหรับการรับมือเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์เดลตา ที่แพร่กระจายได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์อื่นๆ โดยทางบริษัทได้สั่งเริ่มการผลิตวัคซีนชุดแรกเรียบร้อยแล้วด้วย