องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ปรับเพิ่มการคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ โดยอ้างแรงหนุนจากการแจกจ่ายวัคซีนต้านโควิด-19 และการที่วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์
ในระหว่างการแถลงข่าวออนไลน์ในวันอังคาร ตามเวลาในฝรั่งเศส โลรองซ์ บูน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ OECD กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกน่าจะฟื้นตัวได้มากขึ้นและขยายตัวในอัตรา 5.6 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ และในอัตรา 4 เปอร์เซ็นต์ ในปีหน้า
เมื่อเดือนธันวาคมของปีที่แล้ว OECD ออกคาดการณ์ที่ระบุว่า เศรษฐกิจน่าจะขยายตัว 4.2 เปอร์เซ็นต์ในปี ค.ศ. 2021 และ 3.7 เปอร์เซ็นต์ในปีค.ศ. 2022
อย่างไรก็ดี บูน เตือนว่า ยังมีความเสี่ยงหลายประการที่อาจทำให้เป้าหมายการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกไม่เป็นไปตามคาด โดยปัจจัยหลักนั้นคือ ความคืบหน้าของการแจกจ่ายวัคซีนต้านโควิด-19 และย้ำว่า ยิ่งประเทศต่างๆ ฉีดวัคซีนให้ประชาชนในประเทศของตนได้เร็วเท่าไหร่ แต่ละประเทศจะสามารถเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ดำเนินเหมือนปกติได้เร็วขึ้นเท่าน้น
แต่แม้วัคซีนต้านโควิด-19 จะเป็นปัจจัยบวกที่สามารถช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจโลกได้ OECD ยอมรับว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของสหรัฐฯ ที่อาจถูกวีโต้จากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเร็วๆ นี้ คือปัจจัยที่สำคัญกว่าในการปรับขึ้นคาดการณ์เศรษฐกิจโลกครั้งล่าสุด
บูน กล่าวว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ แต่จะยังช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก จากการที่อุปสงค์ในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น และส่งถ่ายไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลกได้ด้วย
ทั้งนี้ OECD ประเมินว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวที่อัตรา 6.5 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ และ 4 เปอร์เซ็นต์ ในปีหน้า ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มจากการคาดการณ์ที่ 3.2 เปอร์เซ็นต์ และ 3.5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อก่อนหน้านี้