เกาหลีเหนือออกโรงตำหนินโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ใช้กับรัฐบาลกรุงเปียงยาง พร้อมเตือนว่าสหรัฐฯ จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เศร้าสลด หลังจากที่ทำเนียบขาวเพิ่งประกาศทบทวนมาตรการทางการทูตที่จะนำมาใช้กับเกาหลีเหนือ
แถลงการณ์ของ ควอน จอง กัน ผอ.ใหญ่ฝ่ายกิจการสหรัฐฯ ของกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ ระบุว่า นโยบายทางการทูตของสหรัฐฯ ที่เปิดกว้างให้มีการเจรจากับเกาหลีเหนือนั้น เป็นเพียงความพยายามปกปิดความเป็นอริศัตรูกับกรุงเปียงยางเท่านั้น และยิ่งแสดงให้เห็นชัดเจนถึงนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ที่มีต่อเกาหลีเหนือ ซึ่งเกาหลีเหนือจะใช้มาตรการตอบโต้ และสหรัฐฯ จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เศร้าสลด รวมทั้งต้องพบกับวิกฤติที่เหนือการควบคุมหากยังใช้นโยบายที่ล้าสมัยจากแนวคิดและมุมมองยุคสงครามเย็น
เมื่อวันศุกร์ ทำเนียบขาวประกาศแผนการทูตของสหรัฐฯ สำหรับเกาหลีเหนือ ซึ่งจะเน้นที่การดำเนินแนวทางสายกลางจากประธานาธิบดีคนก่อน ๆ
โฆษกทำเนียบขาว เจน ซากี กล่าวว่า นโยบายใหม่นี้จะมุ่งเน้นการเจรจาทางการทูตกับกรุงเปียงยาง แต่ก็จะไม่ยอมโอนอ่อนตามข้อเรียกร้องเกาหลีเหนือและจะไม่ใช้ความอดทนทางยุทธศาสตร์มากเกินไปเช่นกัน ภายใต้ประเด็นเรื่องความมั่นคงปลอดภัยของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร รวมทั้งทหารอเมริกันที่ประจำการในภูมิภาคนี้
เกาหลีเหนือคว่ำบาตรการเจรจากับสหรัฐฯ มาตั้งแต่ปี ค.ศ.2019 หลังการเจรจาระหว่างอดีตประธานาธิบดีทรัมป์กับผู้นำคิม จอง อึน จบลงห้วน ๆ โดยไม่มีข้อสรุปใด ๆ เกี่ยวกับการระงับโครงการนิวเคลียร์ของเปียงยาง ซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดน เคยกล่าวไว้ว่าจะไม่มีการเจรจาในระดับสูงใด ๆ กับเกาหลีเหนืออีกหากไม่มีความคืบหน้าด้านการยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเสียก่อน