เกาหลีเหนือรายงานตัวเลขผู้มีอาการไข้ขึ้นสูงมากกว่า 392,000 คนในวันอาทิตย์ และมีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 8 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิดในเกาหลีเหรือแตะระดับ 50 คนแล้วเท่าที่มีการรายงานออกมา
สื่อของทางการเกาหลีเหนือ เคซีเอ็นเอ รายงานในวันจันทร์ว่า ขณะนี้ตัวเลขผู้เจ็บป่วยจาก "อาการไข้ขึ้นสูงโดยไม่ทราบที่มา" เพิ่มขึ้นเป็น 1,213,550 คนนับตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ในจำนวนนี้ราวครึ่งหนึ่งต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์
สื่อโทรทัศน์ของเกาหลีเหนือ เคซีทีวี รายงานว่า จำนวนผู้ติดโควิดที่ยืนยันแล้วเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 168 คน ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเปียงยาง และเมืองพยองกันเหนือที่มีพรมแดนติดกับจีน
สื่อเคซีเอ็นเอรายงานด้วยว่า ผู้นำคิม จอง อึน ได้เป็นประธานการประชุมฉุกเฉินของพรรคแรงงานเกาหลีเหนือในวันอาทิตย์ และได้ตำหนิการขนส่งยาที่ล่าช้าจากคลังเก็บยาสำรองของรัฐบาลไปยังร้านขายยาต่าง ๆ ทั่วประเทศเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ผู้นำคิมยังได้ตระเวนตรวจสอบร้านขายยาต่าง ๆ ด้วยตนเองในวันอาทิตย์ และพบว่าร้านส่วนใหญ่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีการเก็บสำรองยาที่จำเป็น และขาดสุขอนามัยที่ดี
SEE ALSO: เกาหลีเหนือรายงานผู้เสียชีวิต 42 รายจากโควิดระบาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกาหลีเหนือเพิ่มระดับการเตือนภัยโควิด-19 ไปสู่ระดับการเตรียมพร้อมรับมือการระบาดขั้นสูงสุด ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิดไปทั่วโลกเมื่อสองปีที่แล้วที่เกาหลีเหนือยอมรับว่ามีการระบาดของโคโรนาไวรัสในประเทศ
ขณะเดียวกัน สื่อเกาหลีใต้รายงานว่า จีนได้ส่งคณะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ 10 คนไปยังเกาหลีเหนือเพื่อช่วยในการควบคุมการระบาด นอกจากนี้ยังมีการขอความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ จากเกาหลีเหนือไปยังรัฐบาลกรุงปักกิ่งด้วย
ทางด้านประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ ยูน ซุก-ยอล แถลงต่อรัฐสภาเป็นครั้งแรกในวันจันทร์ เน้นย้ำว่าเกาหลีใต้ยินดีส่งความช่วยเหลือด้านมนุษธรรมให้แก่เกาหลีเหนือ เช่น ยา วัคซีน อุปกรณ์และบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อใช้ในการรับมือโควิด-19 หากเกาหลีเหนือต้องการ
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าไม่มีแผนส่งความช่วยเหลือทางการแพทย์ให้เกาหลีเหนือโดยตรง แต่จะช่วยผ่านทางโครงการวัคซีน โคแวกซ์ (COVAX) ของสหประชาชาติ ที่มีเป้าหมายบริจาควัคซีนโควิดให้แก่ประเทศรายได้ต่ำและปานกลาง พร้อมขอให้เกาหลีเหนือทำงานร่วมกับประชาคมโลกเพื่อจัดหาวัคซีนให้แก่ประชากรราว 26 ล้านคนของเกาหลีเหนือจากการระบาดครั้งนี้