หนังไซไฟ ‘A Quiet Place Part II’ เปิดตัวกระหึ่มทุบสถิติหลังวิกฤตโควิด-19: คำในข่าว

Millicent Simmonds dalam sebuah adegan dari "A Quiet Place Part II." (Jonny Cournoyer/Paramount Pictures via AP)

เมื่อปีก่อน การระบาดของโคโรนาไวรัส โควิด-19 ทำให้หนังใหญ่เจอโรคเลื่อนฉายกันถ้วนหน้า มาในปีนี้ที่สถานการณ์ในสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้นจนใกล้ความปกติ ติดตามทิศทางตลาดภาพยนตร์ในอเมริกา พร้อมคำศัพท์ที่น่าสนใจ กับคุณนีธิกาญจน์ กำลังวรรณ ช่วงคำในข่าววันนี้

Your browser doesn’t support HTML5

Newsy Vocab


พาดหัวข่าวของ Associated Press ระบุว่า Fueling box office rebound, ‘Quiet Place’ opens with $58.5M หมายความว่า เติมเชื้อเพลิงให้บ็อกซ์ออฟฟิศกลับฟื้นคืนมาอีกครั้ง จากหนัง ‘Quiet Place’ เปิดตัวด้วยรายได้ 58.5 ล้านดอลลาร์

ข่าวนี้สะท้อนว่าการชมภาพยนตร์ในโรงหนังแบบดั้งเดิมยังไม่ล้มหายตายจากไปจากวิถีชีวิตของผู้คน เพียงแต่อยู่ในภาวะจำศีลช่วงโควิดระบาดเท่านั้น เมื่อภาพยนตร์ภาคต่อแนวไซไฟสุดระทึก A Quiet Place Part II เปิดตัวในสุดสัปดาห์ Memorial Day ที่ชาวอเมริกันเทเงินกลับเข้าบ็อกซ์ออฟฟิศสูงสุดทำสถิติใหม่ช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ 48.4 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะทำรายได้สัปดาห์หยุดยาวนี้ได้รวม 58.5 ล้านดอลลาร์ในแถบอเมริกาเหนือ และรายได้ตั๋วหนังจากฝั่งต่างประเทศอีกราว 22 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์แรกที่เข้าฉาย ทุบสถิติเดิมที่หนังสัตว์ประหลาดฟอร์มยักษ์ Godzilla vs. Kong จากค่าย HBO ทำไว้ที่ 48.5 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์แรกที่เข้าฉายยุคโควิด

A Quiet Place Part II จากค่าย Paramount Pictures หนังภาคต่อจากความสำเร็จถล่มทลาย ของผู้กำกับจอห์น คราซินสกี ที่ดันศรีภรรยา เอมิลี บลันท์ รับบทสุดบีบคั้น ในการพาลูกเต้าอีก 3 ชีวิตหลบหนีเอเลี่ยนจอมอาฆาตที่มีประสาทการได้ยินขั้นเทพ เข้าฉายแบบไม่มีโอกาสเลื่อนเมื่อ 28 พฤษภาคมในโรงภาพยนตร์ ก่อนลงในระบบสตรีมมิ่ง Paramount+ 12 กรกฎาคม ครองอันดับ 1 ในสัปดาห์แรกที่เข้าฉาย ด้านภาพยนตร์วายร้ายจากค่ายดิสนีย์ที่หลายคนรอคอย Cruella คว้าอันดับ 2 ที่ 21.3 ล้านดอลลาร์ช่วงสุดสัปดาห์ และคาดว่าจะกวาดรายได้รวม 26.4 ล้านดอลลาร์ในแถบอเมริกาเหนือ และรายได้ตั๋วหนังจากฝั่งต่างประเทศอีกราว 29 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์แรกที่เข้าฉาย

อย่างไรก็ตาม โควิด-19 ได้ทิ้งร่องรอยของวัฒนธรรมการชมภาพยนตร์ใหม่ให้กับผู้คน โดย พอล เดอร์การาเบเดียน นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Comscore ผู้สันทัดด้านตลาดภาพยนตร์ มองว่า ผู้คนมีทางเลือกระหว่างการชมภาพยนตร์ในโรงทั่วไปกับการสตรีมมิ่งภาพยนตร์ ทำให้การชมภาพยนตร์แบบดั้งเดิมมีข้อจำกัดและมีกรอบเวลาในการทำรายได้ลดลงกว่าที่เคยเป็น

ตัวอย่างเช่น กรณีของ A Quiet Place Part II ที่มีเวลาเพียง 45 วันในโรงภาพยนตร์ ก่อนที่จะลงในระบบสตรีมมิ่ง Paramount+ ขณะที่ภาพยนตร์ Cruella เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ควบคู่กับการสตรีมมิ่งแบบชนโรงผ่านแอป Disney+ ที่ให้สั่งซื้อหนังใหม่เรื่องนี้ด้วยราคาเกือบ 30 ดอลลาร์ ดังนั้นสัปดาห์แรกที่เข้าฉายของภาพยนตร์จึงมีบทบาทสำคัญในการเป็นตัวกำหนดรายได้ของภาพยนตร์ในช่วงที่เหลือต่อจากนี้ด้วย

การเปิดตัวของภาพยนตร์ไซไฟอย่าง A Quiet Place Part II เป็นจุดทดสอบตลาดหนังดังช่วงหน้าร้อน หลังตลาดภาพยนตร์ซบเซาลงไปเพราะโควิด-19 แต่ปีนี้สถานการณ์ในสหรัฐฯและหลายประเทศปรับตัวดีขึ้นจนใกล้ความปกติ ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์มากมายได้ฤกษ์กลับโรงฉายกันอีกครั้ง อาทิ Fast & Furious ภาค 9 จากค่าย Universal Pictures และ Black Widow ซูเปอร์ฮีโร่หญิงจากค่ายมาร์เวล

SEE ALSO: ไม่เลื่อนแน่! ‘Black Widow’ และ ‘Cruella’ นำทัพหนังดังหลังยุคโควิด

ปกติแล้ว สุดสัปดาห์หยุดยาวช่วงวัน Memorial Day มักจะเป็นช่วงสัปดาห์โกยรายได้ให้กับโรงภาพยนตร์ในแถบอเมริกาเหนือ โดยปีนี้รายได้ขายตั๋วหนังรวมช่วงสัปดาห์นี้ทะลุ 80 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าปีก่อนที่ทำรายได้เพียง 842,000 ดอลลาร์จากการปิดโรงหนังทั่วอเมริกาก็จริง ยังถือว่าห่างไกลจากช่วงเวลาปกติถึง 3 เท่าตัว ตามข้อมูลของ Comscore

ปัจจุบัน โรงภาพยนตร์ในอเมริกา โดยเฉพาะที่มหานครนิวยอร์กและนครลอสแอนเจลิส กลับมาเปิดให้บริการเกือบจะเป็นปกติโดยเหลือแค่มาตรการรักษาระยะห่าง และเมื่อสัปดาห์ก่อนโรงภาพยนตร์เจ้าใหญ่ในอเมริกา อย่าง AMC Regal และ Cinemark ที่ยกเลิกการสวมหน้ากากในโรงภาพยนตร์สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว

คำในข่าวสัปดาห์นี้ เสนอคำว่า rebound เป็นได้ทั้งคำนามและคำกริยาในรูปเดียวกัน หมายถึง เด้งขึ้นมา หรือ ฟื้น ส่วนในพาดหัวข่าวนี้ คำว่า rebound ทำหน้าที่เป็นกริยา

ทีนี้เรามาดูการใช้คำว่า rebound ที่ทำหน้าที่เป็นคำนามในประโยคกัน ตัวอย่างเช่น

Michelle made a lot of money from the stock market's strong rebound last week.

หมายความว่า มิเชลทำเงินได้มากมายจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน

บางครั้งคำว่า rebound สามารถใช้เป็นคำเเสลง เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ ในเชิงที่ว่า เป็นตัวช่วยให้ฟื้นจากการความสัมพันธ์ที่เพิ่งจบลงไป ไม่ได้คิดจริงจัง ประมาณว่า คนดามใจหลังอกหัก หรือ คนคั่นเวลา นั่นเองค่ะ

ไปดูการใช้คำว่า rebound ที่เป็นคำแสลงในประโยคกัน ตัวอย่างเช่น

Honey, your sister should be careful about getting serious with Kyle. He is just looking for a quick rebound.

หมายความว่า ที่รักจ๊ะ น้องสาวคุณควรระวังหน่อยนะถ้าคิดจะจริงจังกับไคล์ เขากำลังมองหาแค่คนคั่นเวลาเท่านั้นแหละ

ต่อจากคำว่า rebound มาดูคำว่า recover ทำหน้าที่เป็นคำกริยา หมายถึง ฟื้นตัว ฟื้นคืนสู่สภาพเดิม ตัวอย่างเช่น

After a soccer accident, Jack's sprained ankle was properly taken care of, but hasn't yet fully recovered.

หมายความว่า หลังจากอุบัติเหตุตอนเล่นฟุตบอล อาการข้อเท้าแพลงของแจ๊คได้รับการดูแลอย่างดี แต่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่นัก

คำว่า recover ถ้าเป็นคำนามจะใช้ว่า recovery ที่เเปลว่า ฟื้น

อย่างเวลาเราจะอวยพรให้คนที่ป่วยหายเป็นปกติไวๆ จะบอกได้ว่า A speedy recovery ไปดูการใช้ในรูปประโยค เพื่ออวยพรให้แจ๊คหายจากอาการข้อเท้าแพลงไวๆ ตัวอย่างเช่น

A speedy recovery. We wish to have you back in the team soon.

หมายความว่า ขอให้หายไวๆนะ เราหวังว่านายจะกลับมาร่วมเล่นฟุตบอลกับทีมอีกครั้งในเร็ววันนี้

ส่งท้ายคำในข่าววันนี้ ด้วยคำคมจากอดีตประธานระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด เบน เบอร์แนนกี (Ben Bernanke) ซึ่งเคยกล่าวเอาไว้ว่า

The lesson of history is that you do not get a sustained economic recovery as long as the financial system is in crisis.

หมายความว่า บทเรียนจากประวัติศาสตร์ได้บอกว่า คุณจะไม่พบกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนได้ ตราบเท่าที่ระบบการเงินยังจมอยู่กับวิกฤต

Your browser doesn’t support HTML5

Newsy Vocab คำในข่าว Ep.47 คำว่า ‘คนคั่นเวลา’ ภาษาอังกฤษใช้คำว่าอะไร?