เมื่อวันพฤหัสบดี ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารในเมียนมาเผารัฐธรรมนูญฉบับจำลองเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ในขณะที่ ว่าที่สมาชิกสภาที่ถูกยึดอำนาจประกาศจัดตั้งรัฐบาลพลเรือนเพื่อต่อกรกับรัฐบาลทหารที่ครองอำนาจอยู่
รัฐบาลพลเรือนดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า “คณะกรรมการผู้แทนสมัชชาแห่งสหภาพ” หรือ CPRH ประกอบด้วยสมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของนางออง ซาน ซูจี ผู้นำพลเรือน โดยพวกเขาไม่สามารถครองเก้าอี้ในสภาได้ หลังกองทัพควบคุมตัวผู้นำของตนไป และยึดอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์
ทาง CPRH ยังประกาศใช้รัฐธรรมนูญของรัฐบาลกลางฉบับใหม่แทนที่ฉบับทหารร่างเมื่อปีค.ศ. 2008 โดยแม้รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวจะเปิดทางให้เมียนมามีประชาธิปไตยหลังการปกครองของทหารมากว่า 50 ปี แต่ก็ยังคงอำนาจของกองทัพบกในรัฐบาลพลเรือนอยู่ โดยรัฐธรรมนูญฉบับ CPRH นี้ เขียนขึ้นเพื่อตอบสนองข้อเรียกร้องของกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ต่างๆ ที่ต่อสู้มาหลายสิบปีเพื่อให้ได้อำนาจปกครองตนเองมากขึ้น
การสลายการชุมนุมอย่างรุนแรงต่อผู้เรียกร้องประชาธิปไตยทั่วเมียนมาขยายเป็นวงกว้างขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยมีการโจมตีกลุ่มชาติพันธุ์ที่ร่วมเรียกร้องไปกับผู้ประท้วง
กองทัพเมียนมายังทำการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มกบฏกะเหรี่ยง ที่ตั้งมั่นอยู่ทางตะวันออกของประเทศ เพื่อตอบโต้ที่กลุ่มดังกล่าวโจมตีสถานีของกองทัพและตำรวจ โดยการโจมตีทางอากาศนี้ทำให้ผู้คนหลายพันคนหนีเข้าป่าและมายังชายแดนประเทศไทย
สถานการณ์ที่เลวร้ายลงนี้ ทำให้คริสตีน สคราเนอร์ เบอร์เกเนอร์ ผู้แทนพิเศษของสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ประจำเมียนมา เตือนคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็นว่า “การสังหารหมู่กำลังจะเกิดขึ้น” และมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามกลางเมืองมากขึ้นหากรัฐบาลพลเรือนยังไม่ได้อำนาจคืนมา
องค์กรไม่แสวงหากำไร Assistance Association for Political Prisoners ประมาณการว่า รัฐบาลทหารสังหารผู้คน 536 คนนับตั้งแต่มีการประท้วงโดยสันติ รวมถึงผู้ประท้วงกว่า 100 คน ซึ่งมีสตรีและเด็กเป็นจำนวนมาก ที่ถูกสังหารภายในวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันกองทัพเมียนมา และมีผู้ถูกจับกุม ตั้งข้อหา หรือดำเนินคดีแล้วกว่า 2,700 คน
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สั่งการให้บุคลากรที่ไม่มีหน้าที่จำเป็นและสมาชิกในครอบครัวทั้งหมด เดินทางออกจากเมียนมา ในขณะที่กองทัพยังคงเดินหน้าปราบปรามผู้ประท้วง
ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นางออง ซาน ซูจี ขึ้นศาลผ่านทางการประชุมทางวิดีโอเมื่อวันพฤหัสบดี โดยมิน มิน โซ ทนายของเธอ ระบุว่า ผู้นำรัฐบาลพลเรือนของเมียนมายังไม่ถูกตั้งข้อหาใหม่ และเขาได้พูดคุยกับเธอผ่านการประชุมทางวิดีโอเมื่อวันพุธเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ถูกควบคุมตัวไว้
สื่อออนไลน์ Khit Thit Media ระบุว่า รัฐบาลทหารเตรียมตั้งข้อหากบฏต่อนางออง ซาน ซูจี แม้จะยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการออกมาก็ตาม