นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ยอมรับในวันจันทร์ว่า กองทัพอิสราเอล “ทำความผิดพลาดอันน่าเศร้า” เมื่อโจมตีเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซ่าและทำให้เกิดไฟไหม้เต็นท์ผู้พลัดถิ่นชาวปาเลสไตน์จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 45 คน ตามรายงานของเอพีที่อ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
อิสราเอลเผชิญแรงเสียดทานและเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต่อกรณีการทำสงครามกับกลุ่มฮามาส แม้แต่จากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดที่ออกมาแสดงความโกรธอย่างมากต่อการเสียชีวิตของพลเรือน โดยอิสราเอลยังคงยืนยันว่า ฝ่ายตนปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ ขณะเผชิญการตรวจสอบมากมายจากศาลระหว่างประเทศ อันรวมถึงคำสั่งของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศที่ต้องการให้หยุดการรุกคืบเข้าไปในราฟาห์
Your browser doesn’t support HTML5
สำหรับพัฒนาการล่าสุดของปฏิบัติการดังกล่าว นายกฯ เนทันยาฮู กล่าวต่อหน้าที่ประชุมรัฐสภาอิสราเอลในวันจันทร์ว่า “แม้เราจะพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่ทำอันตรายต่อพลเรือนผู้บริสุทธิ์ ในคืนที่ผ่านมา ก็ยังเกิดความผิดพลาดอันน่าเศร้าอยู่ดี” และว่า “เรากำลังทำการสืบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวและจะหาข้อสรุปในที่สุด เพราะนี่คือนโยบายของเรา”
กระทรวงสาธารณสุขกาซ่าและหน่วยกู้ชีพของสภาเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้อย่างน้อย 45 ราย โดยทางกระทรวงฯ กล่าวด้วยว่า ในกลุ่มผู้เสียชีวิตนั้นอย่างน้อยเป็นผู้หญิง 12 คน เด็ก 8 คนและคนชรา 3 คน โดยมีการพบศพผู้เสียชีวิต 3 รายที่ถูกเผาจนไม่สามารถระบุรายละเอียดใด ๆ ได้
ขณะเดียวกัน กองทัพอียิปต์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหาร 1 นายของตนถูกยิงเสียชีวิตระหว่างการยิงปะทะในราฟาห์ โดยไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติม และอิสราเอลกล่าวว่า ได้ติดต่อทางการอียิปต์เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว และทั้งสองฝ่ายก็กำลังทำการสอบสวนกรณีนี้แล้ว
สงครามอิสราเอล-ฮามาสครั้งนี้ เริ่มต้นจากการที่กลุ่มฮามาสโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัวเข้าใส่อิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีก่อน ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,200 คน รวมทั้งการจับตัวประกันกว่า 250 คนไปด้วย ขณะที่ การโจมตีโต้กลับของอิสราเอลในกาซ่าส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์กว่า 36,000 คนเสียชีวิต อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขกาซ่า โดยตัวเลขนี้รวมความถึงทั้งพลเรือนและนักรบฮามาส ขณะที่มีการระบุว่าส่วนใหญ่เป็นสตรีและเด็ก
- ที่มา: เอพี