สงครามอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสดำเนินมาร่วม 3 สัปดาห์แล้ว และยกระดับขึ้นจนหลายฝ่ายกังวลว่าอาจลุกลามไปทั่วตะวันออกกลาง แต่ผู้เชี่ยวชาญได้เตือนว่าเป้าหมายของรัฐบาลกรุงเทล อาวีฟ ในการกวาดล้างกลุ่มฮามาสให้สิ้นซากนั้นอาจเรียกได้ว่า “เกือบเป็นไปไม่ได้”
กองกำลังป้องกันอิสราเอล หรือ IDF ย้ำยืนยันอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ว่า กลุ่มติดอาวุธฮามาส คือเป้าหมายของปฏิบัติการทางทหารที่ขยายขอบเขตมากขึ้นของอิสราเอล ไม่ใช่ประชาชนชาวปาเลสไตน์
แต่จากรายงานและคลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นความเสียหายต่อเขตพลเรือนมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้แนวทางของอิสราเอลในสงครามบวกกับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ถูกตั้งคำถามมากขึ้น
ในเรื่องนี้ เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาว กล่าวในรายการ This Week ของสถานีโทรทัศน์ ABC ว่า “สิ่งที่เรามอบให้กับอิสราเอลเป็นไปตามกฎของสงครามและเป็นไปตามเงื่อนไขในการปกป้องผู้บริสุทธิ์ นั่นคือเงื่อนไขที่เราบังคับใช้ทุกครั้งที่เราจัดส่งอาวุธไปให้กับประเทศอื่น”
ญาติของตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสจับไปในเหตุโจมตีเมื่อ 7 ตุลาคม ได้แสดงความกังวลว่าการโจมตีภาคพื้นดินของอิสราเอล อาจทำให้ตัวประกันตกอยู่ในความเสี่ยง แต่ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาว ระบุว่ามีความพยายามหลายอย่างที่ดำเนินอยู่เพื่อช่วยตัวประกันออกมาอย่างปลอดภัย
ซัลลิแวน กล่าวว่า “เราเตรียมการสำหรับการสนับสนุนด้านมนุษยธรรมเพื่อให้ตัวประกันสามารถออกมาได้อย่างปลอดภัย และเราจะยังเดินหน้าทำงานในเรื่องนี้ต่อไป”
สงครามที่อิสราเอลมุ่งหมายกวาดล้างกลุ่มฮามาส ถูกมองว่าเป็นภารกิจที่ “แทบจะเป็นไปไม่ได้” ในสายตาของพลเอกโรเบิร์ต เอบรัมส์ นายพลกองทัพบกที่เกษียณอายุราชการ ซึ่งเห็นว่าสงครามนี้อาจใช้เวลานานหลายเดือน
พลเอกเอบรัมส์ ให้สัมภาษณ์ที่ ABC ว่า “การป้องกันที่กลุ่มฮามาสนำมาใช้มีความแน่นหนามาก ทั้งภูมิศาสตร์ในเขตชุมชนเมือง ซึ่งแตกต่างจากสิ่งที่เคยเห็นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และจำเป็นจะต้องมีการต่อสู้อันดุเดือดและต่อเนื่อง รวมทั้งต้องแน่ใจว่าอิสราเอลจะไม่มุ่งเป้าไปยังตัวประกันโดยไม่ตั้งใจ”
นายพลเอบรัมส์ ยังกล่าวถึงสิ่งที่ต้องจัดการต่อหลังจากความขัดแย้งสิ้นสุดลงว่า “กลุ่มฮามาสก่อกำเนิดขึ้นจากความจริงที่ว่าไม่มีการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ แนวทางสองรัฐที่ได้รับการพูดถึงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา นี่คือสิ่งที่คุณต้องตั้งคำถามว่ามันจะจบลงแบบไหน? สิ่งนี้ต้องเป็นส่วนหนึ่งของสมการสิ้นสุดความขัดแย้งด้วย”
แต่ในระหว่างนี้ หน่วยงานสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ ได้แสดงความกังวลว่า การบุกคลังสิ่งของบรรเทาทุกข์ในกาซ่า อาจเป็นสัญญาณว่าความสงบเรียบร้อยในพื้นที่กำลังหมดลง และคำเตือนดังกล่าวมีขึ้นในช่วงที่สมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาธอลิก ทรงเรียกร้องให้ในการหยุดยิงในกาซ่า และปล่อยตัวประกันที่ถูกจับไปด้วย
- ที่มา: วีโอเอ