เมื่อวันศุกร์ รัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ นัดประชุมหารือต่อสถานการณ์รัสเซียบุกรุกยูเครน ขณะที่ยูเครนเรียกร้องให้ชาติตะวันตกประกาศให้น่านฟ้ายูเครนเป็นเขตห้ามบิน หรือมอบเครื่องบินให้ยูเครนเพิ่มเพื่อช่วยปกป้องประชาชนและโครงสร้างพื้นฐานรวมทั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี เรียกร้องให้มีการกำหนดให้น่านฟ้ายูเครนเป็นเขตห้ามบิน นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มบุกรุกยูเครนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม นาโต้ระบุว่า การประกาศดังกล่าวจะเป็นการดึงให้นาโต้ทำสงครามโดยตรงกับรัสเซีย ซึ่งมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง
เมลานี โจลี รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา ระบุว่า นาโต้จะต้องหลีกเลี่ยงการกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศในวงกว้างยิ่งขึ้น แต่ก็ควรมีการหารือถึงความเป็นไปได้ทุกทาง ในขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสระบุว่า คำขอให้มีการกำหนดเขตห้ามบินนั้นมีความชอบธรรม แต่ก็ทำให้เป็นจริงได้ยากมากเช่นกัน
เมื่อวันพฤหัสบดี ผู้นำยูเครนระบุว่า หากนาโต้ไม่ทำตามคำขอในการปกป้องน่านฟ้าของยูเครน นาโต้ก็ควรมอบเครื่องบินรบให้ยูเครนเพิ่มเติม
ทางด้านแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวหลังเข้าพบกับเจนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ ว่า พันธมิตรนาโต้ไม่ต้องการขัดแย้งกับรัสเซีย แต่ก็พร้อมรับมือหากเกิดความขัดแย้งขึ้น และจะปกป้องเขตแดนทุกตารางนิ้วของนาโต้หากเกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าว
ทั้งนี้ แม้รัสเซียจะยังไม่สามารถเข้าถึงกรุงเคียฟของยูเครนทางบกได้ แต่ก็ยิงปืนใหญ่โจมตีย่านที่อยู่อาศัยและโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่อาศัย โดยโจมตีเมืองคาร์คีฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน และเข้ายึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริชเชีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ตามข้อมูลของทางการยูเครน
เลขาธิการนาโต้ประณามการโจมตียูเครนข้ามคืนของรัสเซีย โดยเฉพาะการโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริชเชีย โดยเขาระบุว่า การกระทำของรัสเซียแสดงให้เห็นว่า จะต้องมีการยุติสถานการณ์และรัสเซียต้องถอนกองกำลงออกทั้งหมด และหันมาใช้วิธีทีทางการทูต
สโตลเตนเบิร์กยังระบุด้วยว่า นาโต้จะยืนยันปกป้องพันธมิตรทั้งหมด และได้เพิ่มกองกำลังของคนในยุโรปตะวันออกเพื่อการป้องกันทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ โดยมีกองกำลังของสหรัฐฯ และแคนาดาร่วมด้วย
เลขาธิการนาโต้ยังระบุด้วยว่า การประชุมรัฐมนตรีนาโต้ครั้งนี้ มีเพื่อประสานงานและหารือถึงการรับมือของนาโต้ต่อการบุกรุกยูเครนของรัสเซีย รวมถึงพิจารณาถึงผลกระทบในระยะยาว
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพี รอยเตอร์ และเอเอฟพี