องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ยืนยันว่า จะไม่มีการส่งกองกำลังพันธมิตรชาติตะวันตกเข้าไปในยูเครน แม้ในกรณีที่รัสเซียทำการรุกรานประเทศเพื่อนบ้านที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป ขณะที่ กรุงมอสโกเรียกร้องขอความกระจ่างเกี่ยวกับมาตรการด้านความมั่นคงที่นาโต้วางแผนดำเนินการในพื้นที่ยุโรปตะวันออก
พลเอก เยนส์ ชโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การนาโต้ บอกกับผู้สื่อข่าวของบีบีซี (BBC) ในวันอาทิตย์ว่า ทางองค์การไม่มีแผนที่จะเคลื่อนพลรบเขาไปในยูเครน โดยสิ่งที่นาโต้ตั้งใจจะดำเนินการนั้นมีเพียงการสนับสนุนด้านต่างๆ เท่านั้น
ในช่วงที่ผ่านมา นาโต้เร่งกดดันรัสเซียด้วยการเสริมกำลังทหารในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ รัสเซีย เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการที่เครมลินจะส่งกองทัพบุกเข้ายูเครน หลังทำการเพิ่มกองกำลังของตนตามแนวชายแดนด้านตะวันตกขึ้นเป็นกว่า 100,000 นายพร้อมการเสริมอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ด้วย
ลินดา โธมัส-กรีนฟีลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำองค์การสหประชาติชาติ กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ในรายการ This Week ทางสถานีโทรทัศน์ เอบีซี (ABC) ว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะแจ้งไปยังรัสเซียในวันจันทร์ ให้อธิบายเหตุผลของการส่งกำลังทหารไปประจำตามแนวชายแดนที่ติดกับยูเครน
ขณะเดียวกัน จอห์น เคอร์บี้ โฆษกเพนตากอน ให้สัมภาษณ์ในรายการ Fox News Sunday ในวันอาทิตย์ว่า การรุกรานเข้ายูเครนโดยกองทัพรัสเซีย “อาจเกิดขึ้น เมื่อใดก็ได้” และเปิดเผยว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ยังคง “เดินหน้าเสริมกำลังทหาร” ตามแนวชายแดนติดกับยูเครนอยู่ตลอดด้วย
อย่างไรก็ตาม เคอร์บี้ ปฏิเสธว่า กรุงวอชิงตันมีแผนจะดำเนินมาตรการลงโทษต่อรัสเซียก่อนที่จะมีการบุกยูเครน และไม่เปิดเผยรายชื่อสถาบันการเงินของรัสเซียที่รัฐบาลชาติตะวันตกเล็งไว้เป็นเป้าหมายการลงโทษด้วย
และแม้จุดยืนของสมาชิกกลุ่มนาโต้เกี่ยวกับการรับมือรัสเซียนั้นจะแตกต่างกันอยู่บ้าง โฆษกเพนตากอนกล่าวว่า สหรัฐฯ “เชื่อว่า นาโต้จะยังคงเป็นกลุ่มที่สามัคคีเหนียวแน่นกันอยู่”