ตำรวจเผยประวัติอดีตนักเรียนวัย 28 ปี ที่กลายเป็นผู้ก่อเหตุยิงกราด 6 ศพ ที่โรงเรียนเอกชนในเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี เมื่อวันจันทร์ มีประวัติว่า เข้ารับการรักษาภาวะความผิดปกติด้านอารมณ์ และซื้อปืน 7 กระบอกก่อนก่อเหตุสลด
ตำรวจเมืองแนชวิลล์เผยคลิปความยาว 6 นาทีจากกล้องติดตัวเจ้าหน้าที่ แสดงให้เห็นช่วงเวลาบุกเข้าไปในอาคารโรงเรียน The Covenant School หลังได้รับแจ้งเหตุยิงกราดเมื่อวันจันทร์ ไปจนถึงช่วงก่อนการเผชิญหน้าของตำรวจกับ ออเดร เอลิซาเบธ เฮล หญิงวัย 28 ปี ผู้ก่อเหตุยิงกราด ตามรายงานของรอยเตอร์
Deadly shooting at the Covenant School in Nashville
ตำรวจพบว่า เฮลพกปืนชนิดที่เป็นอาวุธร้ายแรง 2 กระบอกและปืนพก อีก 1 กระบอกในการก่อเหตุ จากปืนทั้งหมด 7 กระบอกที่เธอได้ซื้อมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายในร้านขายปืน 5 แห่งในพื้นที่ ขณะที่ พ่อแม่ของผู้ก่อเหตุไม่ทราบว่า เธอมีปืนถึง 7 กระบอกไว้ในครอบครอง แต่ทราบเพียงว่า มีปืนกระบอกเดียวและได้ขายไปแล้ว ขณะที่ สื่อเอพีรายงานว่า ตำรวจพบปืนที่เหลือซุกซ่อนอยู่ในบ้าน
นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ต้องสงสัยก่อเหตุมีการฝึกฝนการใช้อาวุธปืน และยิงเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุจากหน้าต่างใหญ่บริเวณชั้นสองของอาคารเรียน เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นเป้านิ่งของตำรวจ และยังทิ้งแผนที่ที่มีข้อมูลรายละเอียดจุดเข้าออกอาคารอย่างละเอียด ซึ่งตำรวจเชื่อว่า เฮลได้วางแผนก่อเหตุยิงกราดที่อื่นด้วยเช่นกัน แต่ไม่ได้มุ่งเป้าก่อเหตุกับใครเฉพาะเจาะจง
Metropolitan Nashville Police Department Officer Rex Engelbert points his weapon at the mass shooting suspect in The Covenenant School
ณ ตอนนี้ตำรวจยังไม่สามารถระบุแรงจูงใจในการก่อเหตุได้ และเฮล ซึ่งเป็นอดีตนักเรียนของโรงเรียนที่เกิดเหตุ มีประวัติเข้ารับการรักษาภาวะความผิดปกติทางอารมณ์ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้และไม่ได้อยู่ในประวัติของตำรวจก่อนการก่อเหตุ
เหตุยิงกราดเมื่อวันจันทร์ ถือเป็นเหตุยิงกราดที่โรงเรียนครั้งที่ 90 ในสหรัฐฯ ปีนี้ โดยพิจารณาจากเหตุรุนแรงที่เกิดจากการใช้อาวุธปืนในโรงเรียน อ้างอิงจากฐานข้อมูลของเว็บไซต์เกี่ยวกับเหตุยิงกราดในโรงเรียนของสหรัฐฯ ที่จัดทำโดยเดวิด รีดแมน ขณะที่เมื่อปีที่แล้ว มีเหตุยิงกราดที่โรงเรียน 303 ครั้ง มากที่สุดนับตั้งแต่จัดเก็บสถิติมาตั้งแต่ปี 1970
รัฐเทนเนสซียังไม่มีกฎหมายป้องปราม หรือ red flag ที่มีจุดประสงค์เพื่อยึดอาวุธปืนจากผู้ที่อาจทำการอันเป็นอันตรายแก่ตัวเองและผู้อื่น
- ที่มา: รอยเตอร์และเอพี