กองกำลังด้านความมั่นคงของเมียนมาสังหารประชาชนอย่างน้อย 11 คน และบาดเจ็บอย่างน้อย 10 คน ระหว่างการปราบปรามผู้ประท้วงในเมืองกะเล่ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเมียนมา ตามรายงานของวีโอเอ ภาคภาษาพม่า
หนึ่งในผู้จัดการประท้วงกล่าวว่า ทหารเมียนมาได้ยิงใส่ผู้ประท้วงโดยไม่เลือก และมีการจับกุมผู้ประท้วงบางส่วนที่มีอาวุธติดตัว ในเมืองกะเล่ที่เป็นฐานการต่อต้านกองทัพเมียนมาอย่างดุเดือดในช่วงที่ผ่านมา
หนึ่งในผู้ประท้วงที่หนีรอดการจับกุมของทหารมาได้ กล่าวกับวีโอเอ ภาคภาษาพม่าว่า ทหารได้ยิงจรวดแบบอาร์พีจีมากกว่า 20 ลูกใส่แนวกีดขวาง และยิงกระสุนจริงใส่ผู้ประท้วงในเมืองดังกล่าว
สื่อเมียนมานาว รายงานว่า บรรดาผู้ประท้วงในเมืองกะเล่ใช้อาวุธปืนไรเฟิลและอาวุธที่ทำขึ้นเองในการระดมกำลังต่อต้านการปราบปรามของกองทัพตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้วภายใต้ชื่อ Kalay Civil Army และคาดว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนมากจากการปะทะกันตลอดหลายวันที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน การประท้วงในหลายเมืองทั่วเมียนมายังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องในวันพุธ รวมทั้งในนครย่างกุ้ง เมืองบาโก เมืองโมนยวา และเมืองเนียงชเวในรัฐฉาน ซึ่งล้วนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายรายในเมืองดังกล่าว
องค์กร Assistance Association for Political Prisoners หรือ AAPP ประเมินว่า จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากการต่อต้านรัฐประหารในเมียนมาแล้วเกือบ 600 คน รวมทั้งเด็กหลายสิบคน และมีผู้ถูกจับกุมราว 3,500 คน