รัฐบาลทหารเมียนมารายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตจากพายุไต้ฝุ่นยางิเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 113 คนในวันอาทิตย์ หลังจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันและน้ำท่วมใหญ่ในหลายพื้นที่ กลายเป็นประเทศล่าสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับผลกระทบจากไต้ฝุ่นลูกนี้ ตามรายงานของรอยเตอร์
สื่อ MRTV ของทางการเมียนมารายงานคำแถลงของโฆษกรัฐบาลทหาร ซอว์ หมิ่น ตุน ที่ระบุว่ามีผู้อพยพหนีอุทกภัยอย่างน้อย 320,000 คน และยังสูญหายหลายสิบคน และขณะนี้ทางรัฐบาลกำลังเร่งทำภารกิจช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยแล้ว
พายุไต้ฝุ่นยางิ ถือเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในเอเชียในปีนี้ โดยก่อนหน้านี้ได้พัดถล่มฟิลิปปินส์ เวียนาม และไทย ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน แม่น้ำหลักหลายสายในภูมิภาคนี้ต่างเผชิญระดับน้ำสูงต่อเนื่อง ส่งผลให้มีมวลน้ำไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนในหลายเมือง
อุทกภัยในเมียนมาเริ่มต้นขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 74 คนจนถึงวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่ยังมีรายงานเหตุดินถล่มในหลายพื้นที่ แต่การที่จะตรวจสอบข้อมูลทำได้ยาก เนื่องจากการเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยเป็นไปอย่างยากลำบาก ถนนถูกน้ำท่วม โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารถูกตัดขาด
สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ OCHA (United Nations Office for the Coordination of Humanitarian Affairs) ระบุว่า ฝนที่ตกหนักส่งผลกระทบต่อกรุงเนปิดอว์ เมืองมัณฑะเลย์ ภูมิภาคพะโค มะเกว รวมทั้งรัฐฉาน รัฐมอญ รัฐคะยา และรัฐกะเหรี่ยง โดยภาคกลางของเมียนมาคืดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
สื่อของทางการเมียนมารายงานด้วยว่า มีสิ่งก่อสร้างเสียหายจากน้ำท่วมจำนวนมาก รวมทั้งเขื่อน 5 แห่ง เจดีย์ 4 แห่ง และบ้านเรือนกว่า 65,000 หลัง
ขณะนี้ คาดว่ามีชาวเมียนมาเกือบ 20 ล้านคนที่ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน ทั้งจากอุทกภัยครั้งนี้และสงครามกลางเมืองที่ดำเนินต่อเนื่องตลอดสามปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม องค์กรความช่วยเหลือต่าง ๆ รวมทั้งสำนักงานกาชาดสากลยังไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่หลายแห่งในเมียนมาได้เนื่องจากถูกจำกัดการเข้าถึง และความเสี่ยงจากความรุนแรงของการต่อสู้ในพื้นที่เหล่านั้น
- ที่มา: รอยเตอร์