กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ถอนทหารออกจากเมืองเมียวดี ที่อยู่ติดชายแดนไทย หลังกองทัพเมียนมารุกโจมตีโต้กลับ อ้างอิงจากโฆษกของกองกำลังดังกล่าวเมื่อวันพุธ ตามรายงานของรอยเตอร์
สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ได้ “ถอนทหารเป็นการชั่วคราว” จากเมืองเมียวดี ตามการเปิดเผยของโฆษก KNU ซอ ตอ นี ที่กล่าวหลังจากกองทัพเมียนมาส่งทหารกลับเข้ามาในพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์สำคัญอย่างเมืองเมียวดี อันเป็นช่องทางการค้าระหว่างประเทศมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์แห่งนี้
เมียนมาติดอยู่ในสงครามกลางเมืองระหว่างกองทัพเมียนมา กับพันธมิตรกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ผนึกกำลังกันแบบไม่แน่นแฟ้นนัก รวมทั้งกลุ่มเคลื่อนไหวฝ่ายแข็งข้อต่อต้านที่เกิดขึ้นหลังรัฐบาลทหารเมียนมาก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน เมื่อปี 2021
ด้านกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNA) กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ซึ่งมีประวัติว่าเคยเปลี่ยนขั้วการสนับสนุนมาก่อน ได้เข้ารื้อแผงกั้นและลาดตระเวนทั่วเมืองเมียวดีที่มีผู้คนราว 200,000 คนอาศัยอยู่ ตามการเปิดเผยของประชาชนในพื้นที่ซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม 2 ราย
ภาพจากโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ของกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลทหารเมียนมา เผยให้เห็นทหารของกองทัพเพียงหยิบมือนำธงชาติเมียนมาขึ้นสู่ยอดเสา ในฐานทัพที่ KNU เข้าควบคุมได้เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้
ซอ ตอ นี โฆษก KNU ระบุว่า กองทัพเมียนมาเดินหน้าปฏิบัติการรุกโต้กลับเพื่อยึดเมืองเมียวดีคืน ได้เข้าถึงพื้นที่โดยความช่วยเหลือของกลุ่ม KNA และกล่าวว่า “ทหารกองกำลังกองทัพปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยง (KNLA) จะ ... ทำลายกองทัพเมียนมาและกองกำลังสมทบที่ตบเท้าเข้ามาในเมียวดี” โดยไม่ได้ระบุว่าท่าทีต่อไปของกลุ่มติดอาวุธนี้คืออะไรกันแน่
ด้านกองทัพเมียนมาและกลุ่ม KNA ไม่ได้ตอบกลับการติดต่อเพื่อขอความเห็นของรอยเตอร์ทางโทรศัพท์ในช่วงเวลาที่รายงานข่าวนี้
Your browser doesn’t support HTML5
เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว การต่อสู้ยังคงดำเนินอยู่ในเมียวดี ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์กว่า 3,000 ชีวิตต้องอพยพจากพื้นที่ภายในวันเดียว ในช่วงที่กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ต่อสู้อย่างดุเดือดเพื่อขับไล่ทหารของกองทัพเมียนมาที่ยังปักหลักบริเวณสะพานข้ามพรมแดนไทย-เมียนมาออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว
ชายวัย 45 ปีในเมืองเมียวดี ผู้ไม่ประสงค์ออกนามด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เปิดเผยกับรอยเตอร์ทางโทรศัพท์ในวันพุธว่า “ไม่มีการต่อสู้เกิดขึ้นในวันนี้”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์พบเห็นทหารของกลุ่ม KNA ลาดตระเวนในเมียวดี ไม่นานหลังจากการโจมตีที่นำโดยกลุ่ม KNU ได้ขับทหารออกจากพรมแดนได้สำเร็จ โดยกลุ่มติดอาวุธต่างร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ในช่วงการปะทะกับกองทัพ ซึ่งทำให้กลุ่มแข็งข้อต่อต้านเข้ามาในเมียวดีได้
ทั้งนี้ กลุ่ม KNA ซึ่งเคยเป็นพันธมิตรกับกองทัพเมียนมา ยืนยันความเป็นอิสระจากกองทัพเมียนมาที่อ่อนแอลงในปีนี้ แต่ไม่เคยประกาศความเป็นพันธมิตรร่วมกับฝ่ายแข็งข้อต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาแต่อย่างใด
หลังจากแยกตัวออกมาจากกลุ่ม KNLA เมื่อช่วงปี 2010 กลุ่ม KNA เคยเป็นที่รู้จักในชื่อ กองกำลังป้องกันชายแดนรัฐกะเหรี่ยง (Karen State Border Guard Force) ใต้การนำของ ซอ ชิต ตู ซึ่งอังกฤษได้ออกมาตรการลงโทษเขาฐานค้ามนุษย์ จากบทบาทสำคัญในกองกำลังกลุ่มนี้ และการมีผลประโยชน์ด้านการค้าในเมียวดีและพื้นที่ใกล้เคียงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งรวมถึงธุรกิจการพนันและศูนย์คอลเซนเตอร์
ในวันพุธ กระทรวงการต่างประเทศไทย ได้ระบุว่าการต่อสู้ในเมืองเมียวดีได้ผ่อนกำลังลงแล้ว และหวังว่าจะกลับมาเปิดพรมแดนการค้าได้อีกครั้ง พร้อมระบุว่าพลเมืองเมียนมาส่วนใหญ่กลับภูมิลำเนาไปแล้ว แต่ยังมีอีก 650 คนที่ยังปักหลักอยู่ในฝั่งไทย
นายนิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไทย กล่าวว่าสถานการณ์ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังคงติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เนื่องจากมีความไม่แน่นอนสูงและสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ โดยประเทศไทยได้รับรายงานว่าอาจมีการหารือกันระหว่างฝ่ายคู่ขัดแย้งในฝั่งเมียนมา แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมเสริมว่าไทยได้เสนอให้ลาว ในฐานะประธานหมุนเวียนอาเซียน เป็นเจ้าภาพการประชุมที่หาหนทางยุติวิกฤตเมียนมา
- ที่มา: รอยเตอร์