ชายศีรษะล้านระวัง! ตำรวจโมซัมบิกเตือนภัยฆ่าตัดอวัยวะทำพิธีเสริมความร่ำรวย

ความยากจนกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ทำให้ชายศีรษะล้านในโมซัมบิกตกอยู่ในอันตราย

Your browser doesn’t support HTML5

โมซัมบิกเตือนชายศีรษะล้านระวังตัวจากภัยฆาตกรรมตัดอวัยวะ

ผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นในประเทศโมซัมบิกชี้ว่า ความยากจนที่รุนแรงขึ้นในประเทศเป็นสาเหตุหลักของการฆาตกรรม เพราะคนเชื่อในเวทมนต์และไสยศาสตร์

บุค แซมโบ นักสังคมวิทยาเเละอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเอ็ดวาร์โด มอนด์เลน ในโมซัมบิก กล่าวว่า การฆาตกรรมชายศีรษะล้านสองรายเป็นตัวอย่างที่เเสดงให้เห็นความสิ้นไร้หนทางของคนในการเเก้ปัญหาความยากจน จนต้องหันไปพึ่งความเชื่อทางไสยศาสตร์เพราะหวังว่าจะช่วยให้เกิดโชคลาภ

เขากล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า เหตุการณ์นี้มีสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับปัญหาทางสังคมในโมซัมบิก ไม่ว่าจะเป็นระดับการศึกษาที่ต่ำ ความด้อยโอกาสทางสังคมและเศรษฐกิจ ตลอดจนการว่างงาน

ตำรวจโมซัมบิกได้ประกาศคำเตือนนี้หลังจากจับกุมผู้ต้องสงสัยสองคนที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของชายศีรษะล้านสองรายในจังหวัดเเซมเบเซีย โดยเหยื่อหนึ่งรายถูกตัดศีรษะและเหยื่อทั้งสองถูกตัดเอาอวัยวะ

ตำรวจโมซัมบิกรายงานว่า ผู้ต้องหาให้การว่าได้สังหารเหยื่อเพื่อให้หมอพื้นบ้านที่เรียกว่า "พ่อมดหมอผี" นำอวัยวะของเหยื่อไปใช้ในพิธีกรรมที่จะนำความมั่งคั่งร่ำรวยมาสู่ลูกค้าของหมอไสยศาสตร์

อินนาซิโอ ดีน่า โฆษกตำรวจโมซัมบิก กล่าวว่า เเรงจูงใจเกิดจากความเชื่อในสิ่งที่เหนือธรรมชาติและวัฒนธรรมที่งมงายคนท้องถิ่น เชื่อว่าชายศีรษะล้านคือคนร่ำรวย และอวัยวะของคนศีรษะล้านจะช่วยให้คนอื่นร่ำรวย

มีรายงานว่ามีชายศีรษะล้านอีก 3 คนถูกสังหารในเดือนมิถุนายน ในอำเภอมอร์รัมบาล่า ในจังหวัดเเซมเบเซีย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าการฆาตกรรมชายทั้งสามคนนี้เกี่่ยวพันกับความเชื่อทางไสยศาสตร์นี้หรือไม่

ตลอดเวลาที่ผ่านมา คนเผือกในแอฟริกามักตกเป็นเหยื่อของคนที่หารายได้จากการขายอวัยวะของคนเผือก เพื่อใช้ในพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ตามความเชื่อที่งมงาย

ผู้เชี่ยวชาญแห่งองค์การสหประชาชาติคนหนึ่ง เปิดเผยเมื่อปีที่แล้วว่า บรรดานักรณรงค์ท้องถิ่นได้รายงานว่ามีคนเผือกถูกทำร้ายเพื่อนำอวัยวะไปใช้ทางไสยศาสตร์ในโมซัมบิกมากกว่า 100 ราย ตั้งเเต่ปี ค.ศ. 2014 และเชื่อว่าตัวเลขจริงน่าจะสูงกว่านี้

คนเผือกในแทนซาเนีย มาลาวี และประเทศในแอฟริกาอื่นๆ ถูกทำร้ายด้วยเหตุผลเดียวกัน และกลุ่มเรียกร้องสิทธิมนุษยชน อาทิ Human Rights Watch ได้กดดันรัฐบาลของประเทศเหล่านี้ให้ปราบปรามแก๊งค์อาชญากรรมและหมอพื้นบ้านที่อยู่เบื้องหลัง

(รายงานโดย Alfredo Junior / เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว )