คุยหนัง – ดำดิ่งกับ JOKER จุดกำเนิดตลกสุดวิปลาสแห่งก็อตแธม

Joker (2019)

Joker (2019)

เป็นภาพยนตร์ที่ทั่วโลกรอคอยอีกเรื่อง สำหรับจอมวายร้ายในคราบตัวตลก โจ๊กเกอร์ (Joker) หนึ่งในราชาอาชญากรที่ทั่วโลกตกหลุมรัก และเป็นตัวละครที่ยากที่สุดอีกตัวที่จะหานักแสดงมารับบทหนักและซับซ้อนนี้ได้

ในที่สุดบทนี้ก็ตกถึงมือของ วาคีน ฟินิกส์ (Joaquin Phoenix) นักแสดงมากฝีมือจาก Gladiator, Walk the Line และ Her และได้ตัวผู้กำกับท็อดด์ ฟิลลิปส์ ผู้กำกับหนังตลกสุดรั่ว Hangover ทั้ง 3 ภาค ร่วมผนึกกำลังถ่ายทอดความดาร์กและดราม่าสุดขั้วถึงต้นกำเนิดของ ของ Joker ในหนังฉายเดี่ยวเรื่องแรกและอาจจะเป็นเรื่องที่สร้างความฮือฮาอย่างมากในช่วงนี้

Joker เล่าถึง อาเธอร์ เฟล็ก ชายผู้มีอาการทางจิต ที่ทำอาชีพเป็นตัวตลก และมีความฝันเป็นนักแสดงตลกแบบ stand-up comadian เขาใช้ชีวิตอยู่กับแม่ที่ป่วยในอพาร์ตเมนต์อันเสื่อมโทรม ในก๊อตแธมช่วงยุค 80 ที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยอาชญากรรม ความรุนแรง ช่องว่างของคนรวยและคนจนยิ่งถ่างออกไป จนแทบจะกลายเป็นนรกบนดินในเวลานั้น ความโหดร้ายทารุณและความสิ้นหวังที่สังคมมอบให้ กลายเป็นส่วนผสมชั้นเยี่ยมที่ช่วยสร้างอาเธอร์ให้กลายเป็นอาชญากรอันโหดเหี้ยมอำมหิตได้อย่างคาดไม่ถึง

ในช่วงแรกยอมรับว่าเลือกชมเพราะความคาดหวังอย่างมากกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะเป็นตัวละครที่ต้องใช้นักแสดงระดับเซียนมาสร้าง Joker ที่โลกไม่มีวันลืม เหมือนกับ Joker ในมุมของฮีธ เลดเจอร์ (Heath Ledger) นักแสดงผู้ล่วงลับทำไว้ให้โลกตะลึงใน The Dark Knight Rises แต่จากการโปรโมตและตัวอย่างหนังที่หมองหม่น ถือเป็นการย้ำจุดยืนที่แข็งแกร่งของดีซีคอมิกส์ ที่ห่างหายไปนานจากความพยายามสร้างหนังสดใสคล้ายๆมาร์เวลคู่แข่ง และเมื่อกลับมาจับหนังดาร์กและดราม่าทั้งทีแฟนหนังก็ตั้งตารอคอยอย่างมากเช่นกัน

Joker (2019)

Joker ในร่างของวาคีน พาเราไปหาคำตอบของคำถามที่ว่านรกบนดินจะทำให้คนธรรมดาให้กลายเป็นอสูรร้ายได้แค่ไหน ถ้ามองในสายตาคนนอกอาจจะเห็นว่าชายคนนี้น่าสงสาร แต่มีหลายครั้งที่ตรรกะมันช่างผิดเพี้ยนเกินมนุษย์ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะความปกติทางจิตใจ จังหวะดวงตกแบบเจอปีชง หรือสังคมภายนอกตอนนี้มันเลวร้ายเกินเยียวยา วาคีนเนรมิต Joker ที่ตราตรึงเอาอยู่ แค่สีหน้าท่าทางและเสียงหัวเราะ ก็เกาะกุมใจให้สะเทือนอารมณ์ได้

Joker (2019)

สำหรับผู้ที่ไม่ชื่นชอบหนังดราม่า อาจจะเบื่อหน่ายกับการเล่าโน่นปูนี่ให้คนเข้าใจทั่วกันทั้งคุ้งทั้งแคว แต่ถือว่าดำเนินเรื่องเร็วมากภายใต้เส้นทางชีวิตของวายร้ายขวัญใจทั่วโลก เพราะมีหลายมิติและปมที่ต้องรีบคลายให้ได้ไปต่อ และด้วยธีมดราม่าไม่ต้องห่วงว่าจะผิวเผิน เพราะ Joker จะทำทุกวิถีทางที่จะพาคุณบันจีจัมพ์จากเทือกเขาหิมาลัยดำดิ่งสู่ก้นสมุทรมาเรียนาภายในไม่กี่นาที

Joker (2019)

มิติของภาพเป็นความสวยงามบนความสกปรก ที่พาเราไปสัมผัสกับเมืองที่คิดว่าไม่น่าจะมีใครอยากใช้ชีวิตอยู่ และผู้ที่อ่อนแอก็ต้องพ่ายแพ้และถูกเหยียบย่ำอยู่ร่ำไป ซึ่งขอชื่นชมการเนรมิตฉากและดำเนินภาพที่สวยงามและน่ากลัวไปพร้อมๆกัน มุมภาพบางช็อตมีความอาร์ตที่ยังขายได้ในตลาดแมส บวกกับบทเพลงที่ขยี้ความเจ็บปวดของหนังเข้าไปอีก

Joker (2019)

กลับมาที่สิ่งที่ได้ในเรื่องนี้ ถือว่ามาในจังหวะที่เราต้องย้อนมองดูตัวเองอย่างมาก แม้จะเป็นฉากยุค 80 แต่มันช่างสะท้อนสังคมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ปัญหาอาชญากรรมความรุนแรง ปัญหารวยกระจุกจนกระจาย นักการเมืองที่หยอดคำหวานจะแก้ปัญหาบ้านเมือง แต่สุดท้ายก็เป็นเรื่องหาเงินเข้ากระเป๋า การทำตามความคาดหวังผู้คนในสังคมซึ่งก็มากเกินแกง และความเห็นแก่ตัวที่เกาะกินสามัญสำนึกของผู้คนจนน่าหวั่นใจ ต่างฉายออกมาในภาพยนตร์เรื่องนี้แบบงานบุฟเฟต์นานาชาติ

Joker (2019)

โดยสรุปคือ หนังเรื่องนี้ฉายความเรียลบนคอมิกส์ ภาพของตลกร้ายที่ขำไม่ออก ความดราม่าหน่วงอารมณ์และกระชากหน้ากากในสังคมปัจจุบันได้สุดลิ่มทิ่มประตู และขอย้ำอีกครั้งว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่เหมาะสำหรับเด็กและเยาวชน รวมทั้งผู้ที่มีภาวะอ่อนไหวต่อสิ่งเร้าที่กระทบกระเทือนจิตใจได้ง่าย

Joker (2019)

(บทวิจารณ์ภาพยนตร์โดยนีธิกาญจน์ กำลังวรรณ)