Your browser doesn’t support HTML5
(ฟังวีโอเอไทยคุยหนัง Black Panther จากบางส่วนของรายการสุดสัปดาห์กับวีโอเอ)
ถือเป็นการเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่อลังการ สำหรับ ‘Black Panther’ ราชาเสือดำ ซูเปอร์ฮีโร่ผิวสีคนแรกจากค่ายมาร์เวล ที่เคยปรากฏตัวใน Captain America: Civil War มาแล้ว และเรียกเสียงฮือฮา จนนำไปสู่การทำภาพยนตร์ฉายเดี่ยวของตัวเองได้สำเร็จ
Black Panther ถ่ายทอดเรื่องของเจ้าชาย ‘ทีชาลา’ (รับบทโดย Chadwick Boseman) แห่งอาณาจักรวากานดา ประเทศในทวีปแอฟริกาที่สันโดษจากโลกภายนอก ต้องเจอบททดสอบสำคัญหลังการสูญเสียพระบิดาอย่างกะทันหัน และต้องขึ้นเป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่แบบไม่ทันตั้งตัว
เมื่อเป็นราชา ภารกิจเพื่อประเทศชาติต้องมาก่อน เขาต้องต่อกรกับวายร้ายที่หวังช่วงชิงแร่ไวเบรเนียม โลหะที่ทรงพลังที่สุดในโลก และอาณาจักรวากานดานำมาใช้ในการสร้างเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยจากรุ่นสู่รุ่นโดยไม่มีชาติไหนล่วงรู้มาก่อน และต้องรับรู้กับความลับที่ถูกปิดมาหลายสิบปี ที่ย้อนกลับมาทำร้ายเขาและอาณาจักรวากานดา
เมื่อพูดถึงประเทศลึกลับที่เต็มไปด้วยความล้ำยุคด้านเทคโนโลยี อาณาจักรวากานดาในมุมมองของ Marvel ทำออกมาได้สวยงาม ยิ่งใหญ่ อลังการ และใส่ใจรายละเอียดในความหลากหลายของแต่ละชนเผ่า
ตัวบทที่มีข้อจำกัดของความเป็น Disney อยู่ครึ่งหนึ่งนั้น ทำให้ฉากต่อสู้ดูซอฟต์ใสไปมาก จะตีรันฟันแทงก็ไม่กล้าลงรายละเอียดมาก ต้องเน้นภาพไกล หลบหลีกการใช้ความรุนแรง
แต่ตรงนี้นับถือไอเดียของผู้เขียนบท ที่ยอมปล่อยวางเรื่องการใช้ความรุนแรงระดับ PG-13 มาขยี้เส้นเรื่องที่พลิกไปพลิกมาได้น่าสนใจ ถือว่าทำได้ดีและดูสนุกจนลืมเวลา ขณะเดียวกันตัวหนังไม่พยายามยัดเยียดมุกตลกโป้งชึ่งมากมายเหมือนหนังมาร์เวลเรื่องอื่นๆ
ส่วนที่ประทับใจ คือ การให้ซีนของผู้หญิงในการต่อสู้ ทั้งสายลับ นักรบปกป้องราชาเสือดำ น้องสาวของทีชาลาที่ฉลาดเป็นกรด ซึ่งล้วนแล้วแต่สะท้อนถึงมุมคิดของมาร์เวล ในการผลักดันบทเด่นของผู้หญิงในสายนี้ และในอนาคตอันใกล้คงได้เห็นภาพยนตร์ฉายเดี่ยว หรือให้ซีนเด่นของซูเปอร์ฮีโร่ผู้หญิงมากขึ้นแน่นอน
โดยสรุปแล้วบอกได้เลยว่าถ้าสปอยล์เรื่องนี้ก็ยังต้องตามไปดูอยู่ดี เพราะสิ่งที่มีในตัวอย่างหนังเป็นแค่เศษเสี้ยวของภาพยนตร์ Black Panther เท่านั้น