เหตุระเบิดใกล้สุสานอดีตผบ.อิหร่านสังหารปชช.กว่า 100 คน

เหตุระเบิดในพิธีรำลึกอดีตผบ.อิหร่าน เมื่อ 3 ม.ค. 2567

เกิดเหตุระเบิดสองครั้งในระหว่างที่อิหร่านจัดงานรำลึกอดีตผู้บัญชาการทหารที่ถูกสังหารในการโจมตีด้วยโดรนของสหรัฐฯ เมื่อปี 2020 โดยเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 100 คนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ตามรายงานของรอยเตอร์ที่อ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่อิหร่าน

สถานีโทรทัศน์ทางการอิหร่านรายงานว่า เหตุระเบิดครั้งแรกและครั้งที่สองซึ่งเกิดขึ้นห่างกันราว 20 นาทีในจุดที่อยู่ใกล้กับสุสานของพลตรีกาส์เซม สุไลมานี ผู้ถูกสังหารใกล้สนามบินที่กรุงแบกแดด ระหว่างการโจมตีทางอากาศโดยโดรนของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีการจัดงานรำลึกครั้งที่ 4 อยู่

เอพีระบุว่า ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุรุนแรงดังกล่าว ขณะจัดทำรายงานข่าวนี้

Your browser doesn’t support HTML5

เกิดเหตุระเบิดใกล้สุสานอดีตผบ.อิหร่าน ประชาชนเสียชีวิตกว่า 100 คน

ประธานาธิบดีอิบราฮิม ระอีซี แห่งอิหร่าน ออกมาประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็น “อาชญากรรมอันแสนชั่วร้ายและไร้มนุษยธรรม

สื่อรัฐบาลอิหร่านรายงานว่า ปธน.ระอีซียังระบุในแถลงการณ์ด้วยว่า “อาชญากรใจโหด ... จงรับรู้ไว้ว่า ทุกคนจะถูกจัดการอย่างหนักตั้งแต่นี้เป็นต้นไปและ ... ไม่ต้องสงสัยเลยว่า จะมีการตอบโต้อย่างรุนแรงหรือไม่”

หลังมีรายงานข่าวนี้ออกมา หลายประเทศ อาทิ รัสเซียและตุรกี ออกมาประณามการก่อเหตุรุนแรงในอิหร่านอย่างถ้วนหน้า ขณะที่ เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติยังเรียกร้องให้มีการนำตัวผู้อยู่เบื้องหลังมาลงโทษด้วย

ประชาชนในอิหร่านช่วยกันดูแลเหยื่อเหตุระเบิดที่งานระลึกการเสียชีวิตของพลเอกกาส์เซม สุไลมานี เมื่อ 3 ม.ค. 2567

ทั้งนี้ บาห์ราม เอย์โนลลาฮิ รัฐมนตรีสาธารณสุขอิหร่าน บอกกับผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ของรัฐว่า จำนวนผู้เสียชีวิตนั้นอยู่ที่ 95 คน จากที่ก่อนหน้านี้มีรายงานตัวเลขอยู่ที่ 103 คน โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 211 คน ส่งผลให้เหตุการณ์นี้เป็นการโจมตีที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บสูงสุดในประวัติศาสตร์ของประเทศแล้ว

ในอดีต อิหร่านมักกล่าวโทษว่า ผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุรุนแรงคือ อิสราเอล ซึ่งไม่เคยปฏิเสธหรือยอมรับคำกล่าวนี้ แต่ในครั้งนี้ ไม่มีข้อบ่งชี้ว่า มีรัฐต่างชาติเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุระเบิดใกล้สุสานของพลตรีสุไลมานีเลย

ขณะเดียวกัน จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงประจำทำเนียบขาวกล่าวว่า สหรัฐฯ ไม่พบข้อมูลใด ๆ ที่บ่งชี้ว่า อิสราเอลคือผู้ก่อเหตุดังกล่าวเลย

สื่ออิหร่านเผยแพร่ภาพร่างเหยื่อระเบิดจมกองเลือด

คลิปวิดีโอที่สื่อรัฐบาลอิหร่านเผยแพร่ออกมาแสดงให้เห็นภาพของร่างผู้คนหลายสิบคนจมกองเลือด ขณะที่ ผู้เห็นเหตุการณ์พยายามเข้าช่วยผู้รอดชีวิต และบางส่วนก็พยายามเร่งหนีออกจากที่เกิดเหตุอยู่

เจ้าหน้าที่กู้ภัยของสภาเสี้ยววงเดือนอิหร่านได้เร่งทำแผลให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเร่งด่วน เนื่องจากมีประชาชนเข้าร่วมงานรำลึกพลตรีกาส์เซม สุไลมานี หลายร้อยคน โดยสื่ออิหร่านบางแห่งรายงานว่า ตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บที่แท้จริงนั้นสูงกว่าที่มีการเปิดเผยออกมาด้วย

ภาพร่างของเหยือเหตุระเบิดที่งานรำลึกการเสียชีวิตของพลตรีกาส์เซม สุไลมานี ของอิหร่าน เมื่อ 3 ม.ค. 2567

และหลังเกิดเหตุไม่นาน สื่อรัฐบาลอิหร่านประกาศว่า มีการอพยพผู้คนออกจากสุสานที่เกิดเหตุหมดแล้ว และมีการสั่งปิดสุสานไว้จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง โดยรัฐบาลได้ประกาศให้วันพฤหัสบดีที่ 4 มกราคม เป็นวันแห่งการรำลึกถึงผู้สูญเสียในเหตุการณ์ความรุนแรงนี้แล้ว

และแม้ทางการอิหร่านจะยังไม่ได้ออกมาชี้ตัวว่า ใครน่าจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุนี้ เอสมาอิล คานิ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอิหร่าน กล่าวว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของ “ตัวแทนของอิสราเอลและสหรัฐฯ” โดยภาพข่าวของสถานีโทรทัศน์รัฐบาลยังแสดงให้เห็นภาพผู้คนมารวมตัวที่บริเวณสุสานในช่วงค่ำของวันพุธ พร้อมร้องตะโกนว่า “อิสราเอล ไปตายซะ” และ “อเมริกา ไปตายซะ” ด้วย

ในเรื่องนี้ แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันระหว่างการแถลงข่าวประจำวันว่า สหรัฐฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดในอิหร่านในวันพุธแต่อย่างใด และไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อว่า อิสราเอลเป็นผู้ลงมือด้วย

กระทรวงการต่างประเทศอิหร่านระบุในแถลงการณ์ว่า รัฐบาลกรุงเตหะรานจะใช้หนทางระหว่างประเทศทั้งหลายเพื่อระบุตัวและนำผู้ที่เกี่ยวข้องในการโจมตีนี้รวมทั้งบรรดาผู้สนับสนุนทั้งหลายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขณะที่ ปธน.ระอีซี ได้ยกเลิกแผนการเยือนตุรกีในวันพฤหัสบดีไปแล้ว

  • ที่มา: รอยเตอร์