คาดเสียชีวิตกว่า 100 คน จากคลื่นความร้อนปกคลุมภาคตะวันตกเฉียงเหนือสหรัฐฯ - แคนาดา

Adults and kids play in a spray park at Jefferson Park during a heat wave in Seattle, Washington, U.S., June 27, 2021. REUTERS/Karen Ducey

เจ้าหน้าที่รัฐโอเรกอนและรัฐวอชิงตัน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของมณฑลบริติชโคลัมเบียในแคนาดา คาดการณ์ว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 100 คน จากสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับคลื่นความร้อนและอุณหภูมิสูงจัดปกคลุมพื้นที่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ต่อเนื่องไปถึงแคนาดา ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่รัฐโอเรกอนกล่าวว่า จนถึงวันพุธมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 63 คนทั่วทั้งรัฐ จากสาเหตุที่เกี่ยวกับอุณหภูมิร้อนจัด ในจำนวนนี้ 45 คนอยู่ในเขตปกครองมัลท์โนมาห์ เคาน์ตี ซึ่งรวมถึงเมืองพอร์ตแลนด์ เมืองใหญ่ที่สุดของรัฐนี้ที่เผชิญอุณหภูมิในระดับที่สูงถึง 46 องศาเซลเซียส ตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว

ส่วนที่นครแวนคูเวอร์ แคนาดา ตำรวจเปิดเผยว่ามีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างกะทันหันอย่างน้อย 65 รายเพราะคลื่นความร้อนตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่เตือนว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้น

เมื่อวันอาทิตย์ แคนาดาเผชิญกับอุณหภูมิสูงสุดเป็นสถิติใหม่ คือ 46.6 องศาเซลเซียส ที่เมืองไลต์ตัน มณฑลบริติชโคลัมเบีย ก่อนที่จะทำลายสถิติอีกครั้งในวันจันทร์ ที่ระดับอุณหภูมิ 47.9 องศาเซลเซียส ก่อนที่จะเริ่มลดลงในวันอังคารและวันพุธ

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาโลกของสหประชาชาติ ระบุว่า คลื่นความร้อนที่ปกคลุมภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ต่อเนื่องไปถึงแคนาดา เกิดจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “โดมความร้อน” ซึ่งครอบเหนือพื้นที่ดังกล่าวด้วยแรงดันอากาศสูงถูกกดทับไว้ด้วยแรงดันอากาศต่ำทำให้ความร้อนไม่สามารถทะลุผ่านชั้นบรรยากาศไปได้ ส่งผลให้อุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงต้นสัปดาห์ ก่อนที่จะค่อย ๆ ลดลงเมื่อปลายสัปดาห์

เมื่อวันพุธ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศเพิ่มความช่วยเหลือให้แก่รัฐทางภาคตะวันตกของสหรัฐฯ เพื่อรับมือปัญหาภัยแล้งและไฟป่า ซึ่งคาดว่าจะรุนแรงขึ้นในช่วงฤดูร้อนปีนี้

(ที่มา: วีโอเอ และเอพี)